ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผัวพาลูกดูร่างเมีย ถูกฆ่าโหด เพิ่งรู้ว่าหนีมาอยู่กับชายใหม่ ข้างห้องได้ยินเสียงร้อง ช่วยด้วย (คลิป)









จากกรณีเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ (28 ก.ค. 62) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิต ถูกทำร้ายร่างกาย อยู่ภายในห้องเช่า ถนนอุไรรัตน์ จ.สระบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ บ้านแบ่งเป็นห้องเช่า ตรวจสอบพบร่างหญิงเสียชีวิตในสภาพเปลือยกาย นอนหงายที่ด้านหน้าประตูห้องน้ำ สภาพมีบาดแผลถูกแทงหลายแห่งตามร่างกาย และบริเวณหน้าอกด้านซ้าย พบคราบเลือดเต็มห้องน้ำ ทราบชื่อคือ นางนันทนา อายุ 42 ปี



-ที่ห้องพักที่เกิดเหตุ เจ้าของหอพัก และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจำลองการเปิดห้อง เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปเก็บหลักฐานดีเอ็นเอของบังเล็ก ไม่ทราบชื่อจริงนามสกุลจริง ผู้ต้องสงสงสัย ซึ่งเป็นเพื่อนของสามีผู้ตาย และเคยมีปากเสียงกัน

นางฉวี ยอดสง่า เจ้าของหอพัก เปิดเผยว่า ผู้ตายได้มาอยู่ที่ห้องพัก ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ตนไม่เคยเห็นสองผัวเมียทะเลาะกับใคร มีบางครั้งที่จะออกมาพูดคุยกับเพื่อนบ้านข้างห้องบ้าง โดนวานนี้ เวลาประมาณ 20.00 น. นายซาอุดี เจ๊มุ อายุ 42 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เดินมาตะโกนขอความช่วยเหลือ พวกชาวบ้านที่อยู่ที่ห้องแถวนี้ก็วิ่งออกไปดูกัน แต่ตนเองไม่ได้วิ่งไปดู เนื่องจากกลัว เมื่อถามว่าทั้งคู่เคยทะเลาะกับใครหรือไม่ นางฉวี บอกว่า ยืนยันว่าทั้งคู่ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทให้เห็นที่หอพักมาก่อน โดยทางนายซาอุดีมาบอกว่าจะมีการย้ายห้องออก แต่ไม่ทราบว่าจะออกเมื่อไร



-น.ส.ตุ๊ก (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ตนเองอยู่ที่ห้องพัก เวลาประมาณ 14.00 น. ได้ยินเสียงตะโกนของผู้หญิงว่า "ช่วยด้วย ๆ มึงจะเอาอะไร" จากนั้นตนเองก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก จากนั้น เวลาประมาณ 20.00 น. ได้ยินแฟนของผู้ตายร้องไห้ฟูมฟาย ตนเองเลยออกมาดู แฟนผู้ตายบอกว่า "เมียผมตายอยู่ในห้อง"

นอกจากนี้ ตนตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น นอนไม่หลับ เนื่องจากเสียงของผู้ตายยังก้องอยู่ในหู



-ขณะที่ นายซาอุดี เจ๊มุ อายุ 42 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ให้ปากคำกับตำรวจ มีอาการเครียด พร้อมเปิดเผยว่า ตนเองได้คบหากับผู้ตายมาหลายปีแล้ว ตั้งปี 2558 และมาอยู่กินที่หอพักจุดเกิดเหตุ เมื่อปีที่ผ่านมา โดยก่อนเกิดเหตุ นางนันทนาเดินทางไปทำงานที่ จ.นครปฐม และเพิ่งที่จะกลับมาหาตนที่ห้องพัก โดยตนตกใจมากที่เข้าห้องไปเห็นศพภรรยา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำร้าย

นอกจากนี้ นายอำนวย พิทักษา สามีของผู้เสียชีวิตที่คบกันก่อนหน้านี้ เปิดเผยว่า ตนเองทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กำนันได้โทรศัพท์มาหา ตอนแรกที่ตนเองทราบก็ไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เพราะตนเองก็อยู่บ้าน ทำงานบ้านกับลูก 2 คน โดยตนเองกับนางนันทนายังไม่ได้เลิกกัน ภรรยาตนเองมาบอกเพียงว่าจะมาทำงานที่ จ.สระบุรี ตนเองก็ไม่ทราบว่าจะมามีแฟนอยู่กินกัน เพราะไม่ได้ติดต่อกันมาปีกว่าแล้ว เวลาที่ตนโทรหา นางนันทนาก็มักที่จะไม่รับสาย ส่วนตอนนี้ ก็เสียใจมาก จะไปติดต่อรับศพของภรรยาในวันพรุ่งนี้ ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต



-ด้านลูกสาวคนโตของผู้ตาย อายุ 20 ปี กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองติดต่อกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเองเคยถามว่าแม่พักอยู่กับใครที่ จ.สระบุรี แม่ก็จะบอกกับตนเองว่าอยู่คนเดียว ทั้งนี้ แม่เคยรับปากกับตนว่าจะมาอยู่ด้วย จะมาปลูกข้าวโพดทำสวน หลังจากนี้ตนเองก็จะเรียนให้จบ หางานดี ๆ ทำ เลี้ยงน้อง เลี้ยงพ่อต่อไป

(คลิปข่าว)



ขอบคุณ amarintv

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก