ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หนุ่มนับถือไสยศาสตร์ เดินเข้าป่าชายแดน หาสิ่งลี้ลับในถ้ำ 5 วันยังไม่กลับ จนท.ตามเข้าไป 50 ม. ต้องรีบออกมา



หนุ่มนับถือไสยศาสตร์ เดินเข้าป่าชายแดน หาสิ่งลี้ลับในถ้ำ 5 วันยังไม่กลับ จนท.ตามเข้าไป 50 ม. ต้องรีบออกมา     

วันนี้ (23 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าว รายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านโอทะลัน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ ทหารกองร้อยที่ 22 ชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี สนธิกำลังตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 ตำรวจเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บัวเชด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบัวเชด กองร้อย อาสารักษาดินแดน ผู้นำชุมชนบ้านโอทะลัน กว่า 70 นาย ได้สนธิกำลัง พร้อมสุนัขดมกลิ่น เพื่อติดตามค้นหาผู้สูญหาย จากการหลงป่า ตามแนวชายแดนไทย –กัมพูชา เป็นเวลา 5 วัน และยังไม่สามารถกลับออกจากป่าได้ โดยได้ตั้งศูนย์อำนวยการ ประสาน เพื่อปรึกษาหารือติดตาม ค้นหาผู้สูญหาย





โดยญาติระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.62ที่ผ่านมา นายชัยยศ โทษาธรรม ได้ขับรถจักรยานยนต์ มาหาหมอไสยศาสตร์ ท่านหนึ่ง ในพื้นที่ อำเภอสังขะ จ.สุรินทร์ และได้พบปะพูดคุยกันถึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในป่าและถ้ำแห่งหนึ่ง ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ในอำเภอบัวเชด จากนั้น นายชัยยศ มีความสนใจอยากไปพบ และได้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หมอไสยศาสตร์อีกท่านหนึ่งบอกไว้ จึงได้จัดหาสิ่งของ พร้อมกับดอกไม้กำใหญ่ เพื่อไปบูชา และนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในถ้ำออกมา พร้อมกับได้ขับรถจักรยานยนต์ ออกจาก อำเภอสังขะ มุ่งหน้าไปยัง อำเภอบัวเชด และจอดรถจักรยานยนต์ไว้ในป่า สวนยางพาราของชาวบ้าน ในพื้นที่ บ้านโอทะลัน และก็เดินถือสิ่งของพร้อมดอกไม้ มุ่งหน้าไปยังป่าเขาแหลม บริเวณถ้ำผาสาวโศก ขณะที่ชาวบ้านที่พบเห็นได้สอบถาม นายชัยยศ ว่าจะไปที่ไหน คนเดียวในป่าลึก นายชัยยศก็ไม่ตอบ ยังเดินมุ่งหน้าเข้าไปในป่า


ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ได้พากันเดิน เข้าไปในถ้ำ ได้ประมาณ 50 -60 เมตร ใช้ไฟฉายส่องหาตามซอกถ้ำก็ไม่พบคนแต่อย่างใด ก็ต้องรีบกลับออกมา เพราะข้างในมืดมาก ไม่มีอากาศหายใจ และได้ทำความเข้าใจกับญาติๆว่า ขอให้มีการเตรียมความพร้อม ให้มากกว่านี้ มีไฟส่องสว่าง มีถังออกชิเจน ข้างในไม่มีอากาศหายใจ และต้องปรึกษาหารือกับทีมงาน ค้นหาทีมอื่นๆอีกด้วย พร้อมทั้งต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา ในการค้นหา ซึ่งญาติก็เข้าใจ จะรอการติดตามค้นหาของเจ้าหน้าที่ต่อไป
ซึ่งในช่วงที่กำลังค้นหา เจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ได้โทรศัพท์ ไปถามหมอไสยศาสตร์ ร่างทรง ที่นายชัยยศ เดินทาง ไปพบ ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ มายังป่าไม้ชายแดน ในเขตบ้านโอทะลัน ป่าไม้เขาแหลม อ.บัวเชด ซึ่งร่างทรงได้บอกให้เจ้าหน้าที่ ทราบว่า ขณะนี้เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าป่าเขาแหลม ยังไม่ปล่อยตัว นายชัยยศ ออกมา สิ่งที่บังตาไม่ใช่พระนะ เป็นสิ่งลี้ลับ ใหญ่มาก ปิดบังไว้

อย่างไรก็ตาม ตนเองจะนั่งเข้าร่างทรง เพื่อขอให้ท่านได้ปล่อยลูกหลานออกมา ขอเวลา 30 นาที จะติดต่อกลับมาหาเจ้าหน้าที่อีกครั้ง จนถึงขณะนี้การค้นหาก็ยังไม่พบตัวนายชัยยศ แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดค้นหา จะได้ทำการค้นหาต่อ ไป







ซึ่งการค้นหาในพื้นที่ป่าแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง ในการเดินทางเป็นอย่างมาก เป็นเป็นพื้นที่สู้รบมาก่อน ยังมีกับระเบิด ทุนระเบิดฝังดินหลงเหลืออยู่ ผู้บังคับบัญชาย้ำให้เจ้หน้าที่ทุกนาย เดินทางด้วยความระมัดระวัง

ทีมา:siamnews.com


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก