ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ส่อคดีพลิก ปมอาสา ฟาดเด็ก 2 ขวบ เพราะวนรถหนีด่าน ก่อนจับพ่อตรวจปัสสาวะ รู้เลยทำไมขับหนี








จากกรณีที่เด็กชายวัย 2 ขวบ 1 เดือน ถูกเจ้าหน้าที่อาสากระโดดเข้ามาดักรถของพ่อและแม่เด็กที่ขี่รถจักรยานยนต์วนกลับเมื่อเจอด่านตรวจ ซึ่งอาสาคนดังกล่าวได้ชักกระบองฟาดใส่อย่างเต็มแรง ถูกเข้าที่ศีรษะเด็กจนสลบ เย็บ 3 เข็ม จากนั้นผู้เป็นแม่ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แต่ระหว่างที่สอบปากคำอยู่ เด็กมีอาการอาเจียร จึงต้องหามส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
นายสิวา นิลขำ อายุ 28 ปี พ่อของน้องแซม เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อเอาผิดกับนายจักรภพ บุญรอด อาสาสมัครตำรวจ สภ.หนองปรือ หลังใช้ไม้กระบอกตีลูกชายวัย 2 ขวบจนได้รับบาดเจ็บ โดยนายสิวา ให้การอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถ จยย.พาภรรยากับลูกเพื่อไปกินข้าวภายในซอยเขาตาโล ระหว่างนั้นเห็นตำรวจตั้งด่านอยู่จึงวกรถกลับ เพราะกลัวจะถูกจับเนื่องจากไม่ได้สวมใส่หมวกกันน็อก ระหว่างที่ขับหลบด่าน จู่ๆได้มีชายคนหนึ่งที่ยืนซุ่มมุมมืดริมถนน ซึ่งแต่งชุดเครื่องแบบอาสาสมัครตำรวจชุมชน สภ.หนองปรือกระโดดเข้าขวางโดยใช้ไม้กระบองข่มขู่ พร้อมตะโกน”มึงจะหนีด่านหรือไง” พอพูดจบได้ใช้ไม้กระบอง ที่ฟาดจนไปถูกน้องแซม ที่ภรรยาอุ้มแนบอกจนได้รับบาดเจ็บ
คืบหน้า วันที่ 27 มีนาคม 2562 พ.ต.ท. กฤษณ์ มาสุข รอง ผกก.ป.สภ.หนองปรือ ร.ต.อ. บุญช่วย พิดานคำ รอง สวป.สภ.หนองปรือ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม ด.ช.ศิลา นิลขำ หรือ น้องแซม วัย 2 ปี 1 เดือน ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ตึกพัทยาทร พบว่า น้องแซมยังอยู่ในอาการทรงตัว ทีมแพทย์ยังดูแลอย่างใกล้ชิดต้องเฝ้าดูเป็นระยะ ซึ่งขณะนี้น้องแซม ก็เริ่มมีท่าทีร่าเริง เล่นบ้าง ยังมีอาการเจ็บบริเวณบาดแผลอยู่ แต่สามารถทานอาหารได้ปกติ พร้อมมอบกระเช้าให้กับ น.ส.กัลยา ตมกลาง

ภาพจาก สำนักข่าว INN
โดย พ.ต.ท. กฤษณ์ ได้กล่าวขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมยืนยันดำเนินคดีกับตัวอาสาที่ก่อเหตุอย่างแน่นอนขอให้ญาติสบายใจได้เลย กรณีที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเกินกว่าเหตุจริง ขณะที่นายจักรภพ อาสาที่ก่อเหตุนั้นทราบว่า ทำงานอาสามานานเกือบ 10 ปีแล้ว ปกติก็เป็นคนดีช่วยเหลืองานราชการเป็นอย่างดี และจากการพูดคุยเบื้องต้นเจ้าตัวก็รู้สึกเสียใจร้องไห้ตลอดเวลาและอยากไปเยี่ยมอาการของเด็ก แต่เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงระงับไว้ก่อน

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสิวาพ่อของเด็ก ไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ปรากฏว่าปัสสาวะมีสีม่วง ซึ่งเจ้าตัวให้การยอมรับว่าเมื่อ 2 วันก่อนได้เสพยาบ้ามา และเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดมาแล้ว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ภาพจาก สำนักข่าว INN

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก