ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ผิดที่ไว้ใจ หนุ่มบ้างานโพสต์เตือนใจ จับได้เมียมีชู้ เช็คมือถือเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สุดท้ายโป๊ะแตก ที่แท้เป็นคนใกล้ตัว



ผิดที่ไว้ใจ หนุ่มบ้างานโพสต์เตือนใจ จับได้เมียมีชู้ เช็คมือถือเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สุดท้ายโป๊ะแตก ที่แท้เป็นคนใกล้ตัว

(ภาพหน้าปกใช้ประกอบเนื้อหาเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้)
สมาชิกพันทิปหมายเลข 5018757 ได้แบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่เพื่อหวังเป็นข้อคิดให้ใครอีกหลายคน โดยเล่าว่า ตนแต่งงานกับภรรยาได้ 8 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คนส่วนใหญ่มองว่าเราเป็นครอบครัวที่น่ารัก อบอุ่น ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ เนื่องจากเราทั้งคู่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคงในบริษัทที่มีชื่อเสียง
จนวันหนึ่งตนเร่ิมรู้สึกว่าภรรยามีพฤติกรรมแปลกไปจากเดิม มีการซื้อโทรศัทพ์มือถือใหม่ ปลดล็อกโดยการสแกนม่านตา เร่ิมกลับบ้านดึก และจะพกมือถือไว้ติดตัวตลอด แต่ด้วยความที่เราค่อนข้างให้เกียรติกันจึงไม่เคยเช็กมือถือของอีกฝ่าย และส่วนตัวตนเป็นคนจริงจังกับงาน ไม่กิน ไม่เที่ยว ยกเว้นจะเป็นงานเลี้ยงลูกค้า หรืองานที่บริษัทจัด ซึ่งตนได้บอกกับภรรยาไว้ว่าจะกลับดึกกว่าปกติเพราะติดนัดสำคัญ แต่ปรากฏว่าภรรยาถึงบ้านก่อนหน้าตนเพียง 10 นาทีเท่านั้น
จึงให้ภรรยาปลดล็อกหน้าจอก่อนจะนำมือถือไปดูในห้องน้ำ ค่อยๆ ไล่ดูทุกโปรแกรม ประวัติการโทรทุกอย่างก็ดูปกติ มีเพียงแกลอรี่ที่มีรูปภรรยาถ่ายเซลฟี่ตัวเอง ทำท่ายื่นหน้ามาเหมือนจะจูบกล้อง และรูปผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง รวมไปถึงภาพเจลหล่อลื่นที่แคปจากหน้าจอ ตนเห็นแล้วรู้สึกโมโหมาก แต่ภรรยาอ้างว่า ไม่มีอะไร ส่วนเรื่องเจลหล่อลื่นก็เอาไว้คุยกับเพื่อนตามประสาผู้หญิงเท่านั้น
หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไม่นาน ภรรยาได้ชาร์จมือถือทิ้งไว้ก่อนออกไปตลาด จึงลองใส่รหัสผ่านจนสามารถปลดล็อกได้ และได้เมลของบริษัทที่เปิดค้างไว้ เมื่อไล่ดูเรื่อยๆ พบว่าเนื้อหาในเมล คือ ถ้อยคำพรรรณาบอกคิดถึง บอกรักผู้ชายคนอื่น ทั้งที่หัวข้อเมลก็เป็นชื่อที่เกี่ยวกับเรื่องงานปกติ และยังรู้อีกว่าวันที่ภรรยากลับดึกเพราะแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายในภาพที่เจอในแกลลอรี่ ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้วด้วย
ตอนนั้นทั้งผิดหวังทั้งเสียใจ จึงโทรไปต่อว่าอีกฝ่ายให้เขาเลือกว่าจะเอายังไง หากรักภรรยาของตนจริงก็ให้ไปอยู่ด้วยกัน ตนกับลูกจะถอยเอง แต่อีกฝ่ายกลับไม่เลือกข้อเสนอนี้ ตนจึงขู่ให้เขาไปสารภาพกับภรรยาตัวเองว่าทำเลวกับครอบครัวคนอื่นยังไง จนในที่สุดอีกฝ่ายก็โทรกลับมาบอกว่าตอนนี้เขาอยู่กับภรรยาตัวเองและสารภาพทุกอย่างหมดแล้ว โดยหลังจากที่ตนคุยกับภรรยาของอีกฝ่าย ก็ถือเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่งที่ยอมรับและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้น มองโลกจากความจริง…
สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น “ผมว่าทุกคนมีส่วนผิด เหมือนคนเหงา 2 คนมาเจอกันในจังหวะชีวิตที่ผิดพลาด ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้รับการดูแลในฐานะของความเป็นสามีและภรรยาของแต่ละฝ่ายได้เท่าที่ควร ความรู้สึกดีๆ มันก็เริ่มก่อตัว และก็ถึงขั้นมีอะไรกันตามมา ผมและภรรยาเขาก็มีส่วนผิด ที่อาจไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยปละละเลย วันๆ ทำแต่งาน ไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องความต้องการของอีกฝ่าย จนทำให้เรื่องเลวร้ายนี้เกิดขึ้น”
ตนตัดสินใจให้โอกาสภรรยาและเริ่มต้นใหม่ ยอมรับว่าทำได้ยากมาก หากหัวสมองว่างก็จะกลับมาคิดถึงเรื่องนี้อีก จนกลายเป็นคนมีภาวะซึมเศร้า แต่สิ่งที่อยากฝากกับทุกคนคือ ข้อคิดสำหรับชีวิตครอบครัว คือ การใส่ใจ ดูแลความรู้สึกของกันและกัน ให้ความใกล้ชิดกันและกัน อย่าปล่อยให้อีกฝ่ายรู้สึกว่า อยู่เพียงลำพัง ที่สำคัญคือ การรับฟัง ให้โอกาส ให้อภัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน ถ้าคุณยังมีความรักให้กันและกัน ไม่ว่าจะมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม…
(ภาพและข้อมูลจาก สมาชิกพันทิปหมายเลข 5018757)
cr. siamnews

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก