ฝนถล่มปินส์ไม่หยุด-ตายพุ่ง ออสซี่ร้อนจัด อเมริกาหนาวตาย
ฝนถล่มปินส์ไม่หยุด-ตายพุ่ง – เอเอฟพีรายงานวันที่ 30 ธ.ค. ว่ายอดผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ พายุฝนกระหน่ำฟิลิปปินส์ส่งท้ายปีเพิ่มเป็นอย่างน้อย 22 รายแล้ว ส่วนใหญ่จมน้ำและถูกดินที่ถล่มลงมาฝังทั้งเป็น ทางการเร่งส่งเจ้าหน้าที่ช่วยพื้นที่ประสบอุทกภัยและดินถล่มในภูมิภาค บิคอล และวิซาญาสตะวันออก“พื้นที่ส่วนใหญ่จมอยู่ใต้บาดาล เราส่งทหารและเรือยางเข้าไปช่วยครอบครัวผู้ประสบภัย บางแห่งน้ำขึ้นสูงเกือบมิดหลังคา” นายเคลาดิโอ ยูคอต หัวหน้าสำนักงานป้องกันภัยพลเรือน ภูมิภาคบิคอล กล่าว
ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านที่อพยพจากบ้านเรือนไปก่อนพายุเข้า 22,000 คน จึงช่วยลดความสูญเสียลง หลังจากพายุกระหน่ำติดต่อกัน 4 วัน เรือกสวนไร่นาเสียหาย ถนนหนทางถูกตัดขาด ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ฝนจะยังตกหนักต่อไปตลอด 24 ชั่วโมงทางภาคเหนือของประเทศ
วันเดียวกัน ที่ออสเตรเลียประสบวิกฤตคลื่นความร้อนต่อเนื่องนานกว่า 7 วันแล้ว พื้นที่เกือบทั้งหมดของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียมีอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และสูงสุดวัดได้ 39.4 องศาเซลเซียส ที่เมืองมาร์เบิลบาร์ สูงสุดในรอบ 19 ปี
แม้ช่วงนี้อากาศอาจเย็นลงเล็กน้อย แต่จะกลับมาร้อนระอุอีกครั้งหลังปีใหม่ พร้อมเตือนให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานาน โดยเฉพาะนครซิดนีย์ ที่จะเผชิญคลื่นความร้อน ส่วนเมืองโฮบาร์ต แอดิเลด และเมลเบิร์น จะมีสภาพอากาศเย็นลงจากลมทะเลที่พัดเข้าฝั่ง
ช่วงเวลาเดียวกันฝั่งซีกโลกเหนือ สหรัฐอเมริกาเผชิญพายุฤดูหนาว ที่ราบทางตอนเหนือ เขตอัพเปอร์มิดเวสต์ และภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ครอบคลุมตั้งแต่รัฐแอริโซนาเรื่อยไปจนถึงภาคตะวันตกของรัฐเท็กซัส มีผู้เสียชีวิตจากความหนาวเหน็บแล้วอย่างน้อย 7 ราย
หลายพื้นที่ประสบภัยพายุฝนเยือกแข็ง ปรากฏการณ์ของน้ำฝนที่ยังไม่กลายเป็นหิมะ แต่อยู่ในสภาวะน้ำเย็นยิ่งยวด เมื่อตกลงมาจะเกิดการแข็งตัวทันทีกลายเป็นน้ำแข็งเคลือบผิววัตถุต่างๆ เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นไถลได้ง่าย นอกจากนี้ยังทำให้เครื่องบิน 129 เที่ยวถูกยกเลิก และอีก 1,006 เที่ยวต้องล่าช้า