ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ร้อง UN ช่วยดูเลือกตั้ง! หลังชาวโคราชโวย แบ่งเขตพิสดาร ทำสับสนอลหม่าน




ร้อง UN ช่วยดูเลือกตั้ง! หลังชาวโคราชโวย แบ่งเขตพิสดาร ทำสับสนอลหม่าน

ร้อง UN ช่วยดูเลือกตั้ง! – 30 พ.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ที่ประกาศออกมาแล้วว่า การกระทำดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายเริ่มมีความไม่มั่นใจว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ของประเทศไทยจะมีความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เพราะแม้แต่กระบวนการแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นกระบวนการเริ่มต้น ของการเลือกตั้งก็ยังเป็นที่สงสัยว่า กกต.ถูกแทรกแซง จากผู้มีอำนาจอาจเป็นจริง ตามที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตลอด

ทั้งนี้ตนเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่ คสช.จะต้องใช้มาตรา 44 แต่ประการใด เพราะก่อนหน้านี้ กกต.ก็ได้ดำเนินการมาตามขั้นตอนและผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนตามมาตรา 27 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยที่มาของ ส.ส. เรียบร้อยแล้ว การที่ คสช.ใช้มาตรา 44 มาแบ่งเขตเลือกตั้งเองทำให้ภาพพจของ คสช.ตกต่ำลงส่งผลเสียมากกว่าได้

“ผมเห็นว่าถ้าการเลือกตั้ง ส.ส.ของประเทศไทยยังมีลักษณะอึมครึมและถูกครอบงำจากจากผู้มีอำนาจเช่นนี้ ผมขอเรียกร้องให้ UN เข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้ง เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดสิ่งที่เลวร้ายกับประชาธิปไตยของประเทศไทยไปมากกว่านี้” นายประเสริฐ กล่าว

    และนายประเสริฐ ยังกล่าวอีกว่า จากการลงพื้นที่พบปะกับประชาชนชาวโคราชหลังมีการประกาศเขตเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว ชาวโคราชต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผิดหวังกับการทำงานของ กกต.ที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ หลายคนพูดว่าการกระทำเช่นนี้เปรียบเหมือนสุภาษิต “เขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า”

นายประเสริฐ ได้กล่าวยกตัวอย่าง การแบ่งเขตเลือกตั้งของจ.นครราชสีมา ที่เอื้อต่อว่าที่ผู้สมัครพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาล อาทิ อำเภอเมืองนครราชสีมา ถูกแบ่งประชากรออกเป็นถึง 4 เขตเลือกตั้ง ,อำเภอโนนไทย 2 เขตเลือกตั้ง และ อำเภอสีคิ้ว ถูกแบ่งเป็น 2 เขตเลือกตั้ง

ซึ่งอำเภอเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องแบ่งประชากรอำเภอเดียวกันออกเป็นหลายเขตขนาดนี้ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนในการเลือกผู้แทนราษฎรซึ่งไม่ผลดีต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ตนเอง และฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย จะหาช่องทางในการต่อสู้ในเรื่องนี้ต่อไปแม้ว่าคำสั่ง คสช.ที่ 16/2561 จะให้อำนาจ กกต.สามารถทำผิดกฎหมายและทำผิดระเบียบได้โดยให้ถือว่าการกระทำนั้นชอบด้วยกฏหมายและชอบด้วยรัฐธรรมนูญอีกทั้งการกระทำนั้นเป็นที่สุดด้วยก็ตาม เพราะคำสั่งนี้ไม่ชอบด้วยหลักนิติธรรม

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง