ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชายชราวัย60 นอนจมกองอึ อยู่โดดเดี่ยว หดหู่ลูกตัดขาดลั่น”แค่อาศัยน้ำเชื้อมาเกิด”

ชายชราวัย60 นอนจมกองอึ อยู่โดดเดี่ยว หดหู่ลูกตัดขาดลั่น”แค่อาศัยน้ำเชื้อมาเกิด”




เมื่อวันที่ 1กันยายน 2561 ที่ผ่านมา “เมศ เจ้าชายน้อย” จิตอาสาหนุ่ม ผู้ช่วยเหลือคนยากไร้ ได้ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือ และนำเสนอเรื่องราวของชายชราวัย 60ปี ความจำเริ่มเลอะเลือน อาศัยอยู่ในบ้านเก่าผุพัง ไร้ไฟ-น้ำใช้ นอนรอข้าวและน้ำ จากเพื่อนบ้าน และญาติกินประทังชีวิต บางวันขับถ่ายไม่รู้ตัว นอนจมกองอุจจาระ ปัสสาวะ ญาติเผยสุดสะเทือนใจ ติดต่อลูกๆไป ก็ไม่มีใครเหลียวแล ซ้ำพูดตัดขาด”มันไม่เคยเลี้ยงดูกู กูไม่ใช้ลูกมัน กูแค่อาศัย น้ำเชื้อมันมาเกิด”!


ทั้งนี้”เมศ เจา้ชายน้อย” ได้โพสต์ภาพ พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวลงในเฟซบุ๊ก Poramet Misomphop ระบุข้อความทั้งหมดว่า” อาศัยน้ำเชื้อ มาเกิด ” มันไม่เคยเลี้ยงดูกู กูไม่ใช้ลูกมัน กูแค่อาศัยน้ำเชื้อมันมาเกิด ก่อนอื่นเมศไม่ทราบว่า..พวกคุณจะโกรธเคือง แค้นเคือง เคยมีเรื่องอะไรกันมา หรือพ่อของพวกคุณจะไม่เคยเลี้ยงดูพวกคุณมา..




แต่สิ่งที่เมศเห็นอยู่ตรงหน้านี้..คือ ชายชราวัย 60 ปี ( ของสงวนชื่อ )
ที่นอนรอข้าว รอน้ำ จากเพื่อนบ้าน หรือ ญาติ ในบ้านที่ พุพังทรุดโทรมอย่างมากที่สุด ไม่มีแม้น้ำ ไม่มีแม้ไฟ ให้เห็นแสงสว่างความจำในสมองเริ่มจางหาย อยู่แบบไม่ใส่เสื้อผ้า บ้างวันก็ขับถ่ายไม่รู้ตัว ต้องนอนจมกองขี้ กองฉี่ส่วนในบ้านที่คุณลุงท่านนี้อยู่ มีเพียงที่นอนเก่าๆ หมอน และวิทยุเครื่องเล็กเท่านั้น



เมศได้รับแจ้งจากคุณอุ๊ ซึ่งเป็นลูกของน้องสาวคุณลุง คุณอุ๊ได้เล่าให้ฟังว่า..คุณลุงมีลูกทั้งหมด 4 คน ( เมศไม่ขอเปิดเผยชื่อ ) คนที่ 1 เป็นเจ้าของกิจการแห่งหนึ่ง คนที่ 2 ต้องโทษอยู่ที่เรืองจำ คนที่ 3 เป็นผู้จัดการแห่งหนึ่ง คนที่ 4 เป็นเซลล์ ลูกๆทั้งหมดไม่เคยมาดูแลคนเป็นพ่อเลย โดยทางญาติโทรไปบอกก็ได้รับคำตอบว่า..” มันไม่เคยเลี้ยงดูกู กูไม่ใช้ลูกมัน กูแค่อาศัยน้ำเชื้อมันมาเกิด “



เมศไม่ทราบนะครับว่า…คนที่นอนร้องไห้ คนนี้ทำอะไรให้พวกคุณโกรธ
เกลียด หรือ ไม่เคยเลี้ยงดูพวกคุณมา แต่ตอนนี้พ่อของพวกคุณกำลังลำบาก กินแทบไม่ได้กิน บางวันนอนจมกองขี้ กองฉี่ สติสมองเริ่มจางหายจากที่ฟังจากทางญาติ…เมศไม่ได้คิดจะว่าอะไรพวกคุณนะครับ พวกคุณอาจจะติดธุระ ไม่ว่าง หรือมีแผลในใจ แต่ถ้าคุณมีเวลาว่างสักนิด
กลับมาหาพ่อของพวกคุณบ้างเถอะครับ อย่าปล่อยให้เค้าตายโดยที่ไม่เคยเห็นหน้าพวกคุณเลยครับ…


ปัจจุบันคุณลุงพักอาศัยอยู่บนถนน สุขุมวิท จังหวัด กรุงเทพ
คุณลุงไม่มีบัญชีธนาคาร และไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆทั้งสิ้น เบื้องต้นเมศได้ให้เงินส่วนตัวไว้กับทางคุณอุ๊  จำนวนหนึ่งเพื่อเอาไว้ซื้อข้าว ซื้อน้ำประทังชีวิต และได้นำแพมพริส ผ้าอ้อมเอาไว้เบื้องต้น เมศขอขอบคุณเพื่อนบ้านและญาติ ที่คอยดูแลช่วยเหลือตามกำลัง ถึงแม้ทุกคนที่ช่วยจะมีภาระส่วนตัว แต่ก็ยังสงสารหันมาช่วยเหลือคุณลุง ขอบคุณครับ


* เมศเข้าใจลูกๆของคุณลุง และเคารพความคิดต่อการตัดสินใจของพวกคุณ รบกวนเพื่อนๆอย่าต่อว่าอะไร และส่งข้อความเป็นกำลังใจให้กับคุณลุงจะดีที่สุดครับ ( เมศได้รับแจ้งเรื่องราวทั้งหมดมาจากคุณ อุ๊
ซึ่งเป็นลูกของน้องสาวคุณลุง เมศได้รับอนุญาตจากญาติให้ถ่ายรูปและนำรูปถ่ายพร้อมรายละเอียดทั้งหมดลงสื่อออนไลน์เรียบร้อยแล้วครับ )




ขอขอบคุณที่มา : Poramet Misomphop

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก