ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หนุ่มหื่นอ้างสักยันต์แล้วของขึ้นบุกปล้ำเมียเจ้าของอู่ซ่อมโชคดีสาวดิ้นรนหนีออกมาได้

หนุ่มหื่นอ้าง สักยันต์แล้วของขึ้น บุกปล้ำเมียเจ้าของอู่ซ่อม โชคดีสาวดิ้นรนหนีออกมาได้


หนุ่มหื่นอ้างสักยันต์แล้วของขึ้นบุกปล้ำเมียเจ้าของอู่ซ่อมโชคดีสาวดิ้นรนหนีออกมาได้


วันที่25ก.ค.พ.ต.อ.ชนินทร์ณรงค์น้อยผกก.สภ.ท่าแซะจ.ชุมพรได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์บุกเข้าไปปลุกปล้ำผู้หญิงภายในห้องนอนบ้านเลขที่214หมู่16ต.ท่าแซะอ.ท่าแซะจ.ชุมพรจึงสั่งการให้ร.ต.อ.อิทธิพลสุขเอียดรองสวป.สภ.ท่าแซะร.ต.อ.ประวิทย์อินทวาทรองสว.จร.พร้อมกำลังตำรวจสายตรวจรุดไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวด้านหน้าเปิดเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ด้านหลังเป็นที่พักอาศัยอยู่ติดถนนเพชรเกษมตรงข้ามกับธกส.สาขาท่าแซะมีชาวบ้านยืนกว่า10คนยืนคุมเชิงอยู่หน้าห้องนอนที่ประตูถูกปิดล็อคจากด้านในห้องซึ่งมีชายฉกรรจ์ที่บุกเข้าไปปลุกปล้ำหวังจะข่มขืนนางสาวจีรวรรณอายุ26ปี

แต่โชคดีได้ดิ้นรนต่อสู้จนสามารถวิ่งหนีออกมาได้และร้องตะโกนให้นายชิดชัยอายุ25ปีสามีและชาวบ้านช่วยเหลือจนชายคนดังกล่าวต้องปิดล็อคประตูขังตัวเองอยู่ภายในห้องไม่กล้าออกมากลัวจะถูกรุมประชาทัณฑ์

จ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดจาเกลี่ยกล่อมอยู่นานแต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมเปิดประตูจนเจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีพังประตูเข้าไปพบชายคนดังกล่าวนั่งนิ่งอยู่ภายในห้องสภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสีเหลือง-ดำไม่ใส่เสื้อตามร่างกายมีรอยสักทั้งตัวทราบชื่อคือนายอนุชาอลาวิลัยอายุ30ปีระหว่างเจ้าหน้าที่คุมตัวได้มีชาวบ้านฮือจะเข้ารุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยคุ้มกันและห้ามปราบไว้แล้วรีบนำตัวขึ้นรถยนต์สายตรวจพาไปสอบสวนที่สภ.ท่าแซะ


จากการสอบสวนผู้เสียหายให้การว่าตนเป็นภรรยาของเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์ดังกล่าวขณะที่ตนนอนพักอยู่ภายในห้องนอนหลังอู่นั้นโดยไม่ได้ปิดล็อคประตูจู่ๆได้มีชายคนดังกล่าวเปิดประตูวิ่งเข้ามาขึ้นคร่อมทับลงบนตัวตนที่นอนอยู่ด้วยความตกใจกลัวสดขีดจึงดิ้นรนจนสามารถวิ่งหนีออกมาจากห้องได้แล้วตะโกนให้สามีและลูกน้องของอู่ให้ช่วยเหลือส่วนคนร้ายไม่กล้าออกมาปิดประตูล็อคอยู่ภายในห้องและแจ้งตำรวจมาจับกุมตัวไว้ได้ดังกล่าว

เจ้าหน้าที่สอบสวนนายอนุชายังให้การสับสนวกวนอ้างว่าขณะที่ตนของขึ้นเนื่องจากขณะนั่งอยู่ที่บ้านเกิดอาการของขึ้นจากยันต์9ยอดยันต์หอมเชียงยันต์อิติปิโส8ทิศจนควบคุมตัวเองไม่ได้จึงขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านมาเรื่อยๆจนถึงอู่ช่างดำที่เกิดเหตุได้จอดรถไว้ริมถนนแล้ววิ่งเข้าไปภายในห้องนอนหลังอู่ดังกล่าวโดยไม่รู้ตัวจนมาถูกจับกุมดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




cr/เรื่องเล่าเช้านี้บีอีซี-เทโร



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก