ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หัวขโมยยังมารับเสด็จ !! ครั้ง ในหลวง ร.9 ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎร ปี 2502


หัวขโมยยังมารับเสด็จ !! ครั้ง ในหลวง ร.9 ทรงเสด็จเยี่ยมราษฎร ปี 2502     


ตลอด 70 ปี แห่งการครองราชย์สมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้แสดงให้เห็นว่าตลอด 70 ปีมานั้น ท่านทรงตระหนักถึงราษฎรของท่านเพียงไร  ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
"อิสลามิกชนมีพระคัมภีร์อัลกุรอ่าน อันประกอบพร้อมด้วยบทบัญญัติทางศีลธรรม จริยธรรม นิติธรรม เป็นแม่บทศักดิ์สิทธิ์สำหรับการประพฤติปฏิบัติและการดำเนินชีวิต ส่วนใหญ่จึงมีชีวิตที่เจริญมั่นคง มีความฉลาด รู้ผิดชอบชั่วดี มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม และนับเป็นบุคคลที่มีคุณค่า ถ้าแต่ละคนจะพยายามศึกษาพระคัมภีร์ให้เข้าใจถ่องแท้ยิ่งขึ้น พร้อมกับเอาใจใส่วิทยาการด้านอื่นๆให้กว้างขวางและก้าวหน้าอยู่เสมอ ก็จะส่งเสริมให้เป็นผู้มีความดี มีความรู้ความสามารถครบถ้วนสมควรยิ่งที่จะเป็นหลักและเป็นกำลังในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม" พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี้ แสดงให้เห็นประจักษ์ว่าทรงเป็นพระกษัตริย์ที่มีความเข้าพระทัยถึงหลักแห่งศาสนาอิสลามได้อย่างถ่องแท้

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟพระที่นั่งจากสถานีจิตรลดาไปทรงเยี่ยมราษฎร 14 จังหวัดภาคใต้ซึ่งในบางพื้นที่ที่มีประชาชนที่มีความแตกต่างทางศาสนา โดยเฉพาะในแถบจังหวัดภาคใต้ตอนล่างที่มีประชาชนนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ให้ราษฎรของพระองค์ได้เข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิดไม่ว่าจะมีสัญชาติศาสนาใด หรือแต่งกายอย่างใด
การเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนภาคใต้ในช่วงต้นรัชกาลครั้งนี้ เล่าไว้ในความเรียงเรื่อง “พระบารมีปกเกล้า”โดยโอภาส เสวิกุลว่า ราษฎรไทยมุสลิมตื่นเต้นยินดีถึงกับอุ้มลูกจูงหลานออกมารับเสด็จกันชนิด “หมดบ้าน” เมื่อมีผู้ถามว่า “ไม่ห่วงกลัวขโมยขึ้นบ้านหรือ” ก็ได้รับคำตอบว่า
“ไม่ห่วงหรอก เพราะขโมยก็มารับเสด็จเหมือนกัน”


นับจากได้เสด็จเยือนภาคใต้ในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่ชาวไทยมุสลิมด้านการส่งเสริมอาชีพ ทรงให้มีโครงการศูนย์ศึกษาและพัฒนาการเกษตรอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เช่น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง จังหวัดนราธิวาส ทำให้ชาวไทยมุสลิมที่เคยยากจนเพราะไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นจนสามารถยกระดับฐานะครอบครัวให้ดีขึ้นเหมือนกับชาวไทยภาคอื่นๆ



เรียบเรียงโดย : ปิยะนัย เกตุทอง

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

หนุ่มทุบกระปุก มีแต่เหรียญล้วน น้ำหนัก 1 ตัน ก่อนนำไปซื้อรถหรู

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดฮือฮา เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  ชายแซ่เหอ ซึ่งประกอบอาชีพขับรถบัสในประเทศจีน สร้างความปั่นป่วนให้กับโชว์รูมขายรถยนต์ที่เมืองตงเหริน ในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันออกของประเทศจีน หลังจากเขาขนเหรียญมูลค่า 1 หยวนล้วนๆ หนักเกือบ 1 ตันมาเพื่อซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) มูลค่า 480,000 หยวน หรือราว 2.25 ล้านบาท รายงานระบุว่า ชายคนเก็บสะสมเหรียญ 1 หยวนจากการทำงานเป็นคนขับรถบัสตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่นำไปแลกเป็นธนบัตรแต่เก็บเอาไว้ที่บ้านแทน โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะนำไปใช้ซื้อรถในฝัน และในที่สุดเขาก็พบรถ BMW ที่เขาชอบ จึงตัดสินใจจะนำเหรียญไปซื้อรถตามที่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้นึกขึ้นมาได้ว่า เขาไม่เคยนับเงินเหรียญของเขามาก่อน จึงตามเพื่อนหลายคนมาช่วยกันนับซึ่งใช้เวลาถึง 4 วัน จากนั้นใช้กระดาษห่อเหรียญเป็นแท่งแล้วนำใส่ตระกร้า ขนขึ้นรถกระบะ และมุ่งหน้าสู่โชว์รูม ที่โชว์รูปชายรถ เจ้าหน้าที่ถึงกับปวดหัวหลังจากเห็นเหรียญจำนวนมหาศาลที่ชายคนขับรถบัสรายนี้นำมา พวกเขาประเมินว่าไม่สามารถนับเหรียญได้หมดภายในวันเดียว จึงเรียกเจ้าหน้าที่ธนาคารท...