ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดูเป็นบุญตา เปิดภาพแบงก์ 5 แสน ธนบัตรไทยชนิดราคาสูงสุด





ดูเป็นบุญตา เปิดภาพแบงก์ 5 แสน ธนบัตรไทยชนิดราคาสูงสุด     


เมื่อปีพุทธศักราช 2543 แบงก์ชาติได้จัดพิมพ์ธนบัตรที่ระลึกเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคล วันราชาภิเษกสมรส และวันบรมราชาภิเษก ครบ 50 ปี ชนิดราคา 500000 บาท และชนิดราคา 50 บาท เพื่อเทิดทูนความรักที่มีต่อกันระหว่างพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ



และถวายความจงรักภักดีแด่ทั้งสองพระองค์ที่ทรงบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพสกนิกร โดยมิได้ทรงเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย...นับเป็นความรักที่หาที่สุดมิได้ และเป็นบุญบารมีของพสกนิกรที่ได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดีในครั้งนี้ แบงก์ชาติเผยแพร่ข้อมูลธนบัตรที่ระลึกเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับธนบัตรที่ระลึกในรัชสมัยรัชกาลที่ 9
ธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 500000 บาท เป็นธนบัตรชนิดราคาสูงที่สุดของธนบัตรไทย โดยธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เปิดแลกในราคาฉบับละ 1 ล้านบาท โดยมีการลงทะเบียนชื่อผู้ซื้อไว้ ซึ่งหากเปลี่ยนมือแล้ว จะไม่สามารถขายคืนแก่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ ได้เริ่มนำออกจ่ายแลกให้กับประชาชน เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2543 จัดพิมพ์จำนวน 1,998 ฉบับ โดยแบ่งเป็น 2 ชุด
(1) ชุดพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีตราอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. นำหมวดเลขหมายทั้งไทยและ อารบิก จำนวน 999 ฉบับ
(2) ชุดสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีตราอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. นำหมวดเลขหมายทั้งไทยและอารบิก จำนวน 999 ฉบับ





ธนบัตรที่ระลึกที่จัดพิมพ์ขึ้นนี้ มีลักษณะพิเศษกว่าธนบัตรที่ใช้หมุนเวียนตามปกติ คือมีขนาดกว้าง 12.6 เซนติเมตร ยาว 20.5 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับธนบัตรชนิดราคา 1000 บาท ที่ใช้ในปัจจุบัน ที่มีขนาดกว้าง 7.2 เซนติเมตร ยาว 16.2 เซนติเมตร



จุดที่ 1 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจิมสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ในพิธีประกาศสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493



จุดที่ 2 ขณะทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ



จุดที่ 3 ฟอยล์สีเหลืองทอง สลักพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ ซ้อนกับพระฉายาสาทิสลักษณ์ มองเห็นสลับกันเมื่อพลิกธนบัตรไปมา และมีตัวเลข 500000 ขนาดเล็กล้อมรอบฟอยล์สีเหลืองทองนี้ด้วย



จุดที่ 4 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงหลั่งทักษิโณทกในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พุทธศักราช 2493



จุดที่ 5 พระบรมฉายาลักษณ์และพระฉายาลักษณ์ ขณะประทับบนดาดฟ้าเรือซีแลนเดีย ในระหว่างเสด็จนิวัตพระนคร เมื่อพุทธศักราช 2493 ขณะเป็นพระคู่หมั้น



จุดที่ 6 ภาพพระตำหนักเปี่ยมสุข พระราชวังไกลกังวล ที่ประทับภายหลังพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส



จุดที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระราชโอรส และพระราชธิดา ครบทุกพระองค์



จุดที่ 8 สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเจิม หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส เมื่อวันที่ 28 เมษายน พุทธศักราช 2493



จุดที่ 9 ขณะทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ





ข้อควรทราบ : ธนบัตรรุ่นนี้ราคาแลกที่ธนาคารแห่งประเทศไทยขายคือ 1,000,000 บาท และมีการบันทึกทะเบียนชื่อผู้ซื้อด้วย ราคาส่วนที่เกินหน้าธนบัตรนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 หากผู้ถือจะขายคืนธนาคารแห่งประเทศไทย จะได้เท่าราคาหน้าธนบัตรเท่านั้นคือ 500,000 บาท และต้องเป็นผู้ขายคืนตามชื่อในสมุดทะเบียนด้วย หากเปลี่ยนมือแล้วจะขายคืนไม่ได้


ขอบคุณข้อมูลจาก
: ร้อยรัก หนังสือแนะนำธนบัตรที่ระลึกชนิดราคา 500000 บาท
: ข้อมูลจาก สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

หนุ่มทุบกระปุก มีแต่เหรียญล้วน น้ำหนัก 1 ตัน ก่อนนำไปซื้อรถหรู

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดฮือฮา เมื่อสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  ชายแซ่เหอ ซึ่งประกอบอาชีพขับรถบัสในประเทศจีน สร้างความปั่นป่วนให้กับโชว์รูมขายรถยนต์ที่เมืองตงเหริน ในมณฑลกุ้ยโจว ทางตะวันออกของประเทศจีน หลังจากเขาขนเหรียญมูลค่า 1 หยวนล้วนๆ หนักเกือบ 1 ตันมาเพื่อซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) มูลค่า 480,000 หยวน หรือราว 2.25 ล้านบาท รายงานระบุว่า ชายคนเก็บสะสมเหรียญ 1 หยวนจากการทำงานเป็นคนขับรถบัสตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่นำไปแลกเป็นธนบัตรแต่เก็บเอาไว้ที่บ้านแทน โดยหวังว่าสักวันหนึ่งจะนำไปใช้ซื้อรถในฝัน และในที่สุดเขาก็พบรถ BMW ที่เขาชอบ จึงตัดสินใจจะนำเหรียญไปซื้อรถตามที่ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ชายคนนี้นึกขึ้นมาได้ว่า เขาไม่เคยนับเงินเหรียญของเขามาก่อน จึงตามเพื่อนหลายคนมาช่วยกันนับซึ่งใช้เวลาถึง 4 วัน จากนั้นใช้กระดาษห่อเหรียญเป็นแท่งแล้วนำใส่ตระกร้า ขนขึ้นรถกระบะ และมุ่งหน้าสู่โชว์รูม ที่โชว์รูปชายรถ เจ้าหน้าที่ถึงกับปวดหัวหลังจากเห็นเหรียญจำนวนมหาศาลที่ชายคนขับรถบัสรายนี้นำมา พวกเขาประเมินว่าไม่สามารถนับเหรียญได้หมดภายในวันเดียว จึงเรียกเจ้าหน้าที่ธนาคารท...