ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

‘ซีล’ ถึงจุดพัทยาบีชแล้ว! พบร่องรอย 13ชีวิต ตชด.จ่อโรยตัวปล่องเหนือถ้ำหลวง

พัทยาบีช

หน่วยซีล ดำผ่านโพรงถึงเนินพัทยาบีชแล้ว พบร่องรอยของ 13 ชีวิต คาดหนีน้ำเข้าไปลึกกว่านี้อีก เจ้าหน้าที่เร่งระดมสูบน้ำสนับสนุนภารกิจ ด้าน ตชด.เดินเท้าเข้าป่า เตรียมหย่อนอาหารและโรยตัวที่ปล่องเหนือถ้ำหลวง บริเวณดอยผาหมี

เจ้าหน้าที่จัด 12 ทีมเดินเท้าเข้าป่าหาปล่องเหนือถ้ำหลวง (แฟ้มภาพ)

จากกรณีมีเด็กนักฟุตบอล และผู้ฝึกสอนหายเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ในวนอุทยานขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน สำนักงานพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 รับแจ้งว่ามีผู้ที่พากันเดินทางเข้าไปเที่ยวในถ้ำหลายคนแล้วไม่กลับออกมาอีกเลย โดยพบรถจักรยานรองเท้าบริเวณทางเข้าถ้ำ

(แฟ้มภาพ)
ล่าสุดเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือ หน่วยซีล ได้ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง โดยได้ดำผ่านโพรงไปจนถึงจุดพัทยาบีชแล้ว และจากการตรวจสอบพบเพียงรอยเท้าและรอยนิ้วมือบนผนังถ้ำเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คาดว่า กลุ่มของเด็กและผู้ฝึกสอนทั้ง 13 ชีวิต น่าจะหนีน้ำเข้าไปลึกกว่าจุดดังกล่าวอีก ซึ่งระยะทางต่อไปนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยซีลจะต้องดำน้ำเป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร จึงจะไปถึงจุดดังกล่าว
เจ้าหน้าที่เดินเท้าหาปล่องเหนือถ้ำหลวง (แฟ้มภาพ)
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งระดมกันติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เพื่อสูบน้ำออกจากถ้ำ เพื่อสนับสนุนภารกิจของหน่วยซีลในการค้นหา 13 ชีวิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจตระเวนชายแดนจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางเท้าเข้าป่าไปยังดอยผาหมีพร้อมอาหารประมาณ 30 ชุดที่จะใช้หย่อนลงในปล่องเหนือถ้ำหลวง
บริเวณปากถ้ำหลวง จ.เชียงราย(แฟ้มภาพ)
ซึ่งปล่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นจุดเชื่อมโยงกับเนินพัทยาที่เด็กๆและผู้ฝึกสอนน่าจะหนีน้ำไปรวมกันอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ ปล่องที่ดอยผาหมีมีความลึก 90-100 เมตร หากเจ้าหน้าที่ดูแล้วสามารถโรยตัวลงไปได้ ก็จะดำเนินการทันที

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง