ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปรี๊ดแตก !! “หนุ่มพิการ” สุดทนโดนน้องชายเมาอาละวาด ทำร้ายร่างกายทุกวัน คว้ามีดปอกผลไม้แทงดับอนาถคาบ้าน!!


ปรี๊ดแตก !! “หนุ่มพิการ” สุดทนโดนน้องชายเมาอาละวาด ทำร้ายร่างกายทุกวัน คว้ามีดปอกผลไม้แทงดับอนาถคาบ้าน!!



หนุ่มพิการเดินไม่ได้สุดทน น้องชายวัย 35 ปีเมาแล้วมักจะทำร้ายพี่ชายเป็นประจำ ครั้งล่าสุดโดนต่อยตามใบหน้านับสิบหมัด บันดานโทสะใช้มีดปอกผลไม้ข้างตัวแทงสวนเข้าชายโครง เดินซมซานไปเสียชีวิตข้างโอ่งน้ำ พี่สารภาพลงมือจริงแต่ไม่ตั้งใจจะเอาให้ตาย แค่ป้องกันตัว

วันนี้ 30 มี.ค./พ.ต.อ.นิคม โชติทวีศักดิ์ ผกก.สภ.ประโคนชัย ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหนองละแม๊ะ ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีเหตุพี่น้องทำร้ายกันมีผู้เสียชีวิตภายในบ้าน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.อ.พิภพ ชิรัมย์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ประโคนชัย และมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร จุด อ.ประโคนชัย ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้นยกสูง เลขที่ 241 หมู่ 4 บ้านหนองละแม๊ะ พบนายไว (เณร) แท่งกลาง อายุ 46 ปี หนุ่มพิการขาทั้งสองข้างเดินไม่ได้ นั่งอยู่แค่หน้าบ้านรอให้การกับตำรวจ ใต้แค่ไม้พบมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว 1 เล่ม

จากการสอบสวนนายไว แท่งกลาง ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือแทงน้องชายของตัวเองจริง พร้อมกับให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายบุญเหลือ น้องชายเมาสุรามาจากงานบุญในหมู่บ้าน แล้วตนเองก็ทักเตือนเล็กน้อย ทำให้น้องชายไม่พอใจตรงเข้ามาชกต่อยบริเวณใบหน้า เหมือนที่เคยทำร้ายตัวเองเป็นประจำ แต่ครั้งนี้น้องชายชกต่อยกว่า 10 ครั้ง จึงใช้มีดปอกผลไม้ที่ตนกำลังปอกมะม่วงอยู่ก่อนหน้านี้ จ้วงแทงไป 1 ครั้งเพื่อยับยั้งการทำร้ายของน้องชาย ก่อนน้องชายจะเดินไปโอ่งน้ำแล้วล้างเลือดที่เปื้อนตามลำตัว

ผ่านไปประมาณ 1 ชม.เห็นน้องชายนอนคว่ำหน้าคล้ายกับเมาสุรา ก็ไม่เอะใจ จนกระทั่งดูแล้วนอนนานผิดปกติจึงใช้ไม้เท้าประจำกายเดินไปดูพบว่าไม่หายใจ จึงตะโกนเรียกให้ชาวบ้านมาช่วย นายไว ยังให้การด้วยว่า ครอบครัวอยู่กับพี่น้องด้วยกัน 4 คน พ่อแม่เสียชีวิตทั้งหมด ที่ผ่านมาตนเองมักจะถูกน้องชาย ทำร้ายเป็นประจำ แต่ไม่ไม่เคยตอบโต้เพราะตัวเองพิการ ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้น้องเสียชีวิต แต่บันดาลโทสะที่ถูกทำร้ายหลายครั้ง ประกอบกับมีอาวุธอยู่ในมือจึงแทงไปเพื่อหวังแค่ให้หยุดทำร้ายไม่คิดว่าน้องจะมาเสียชีวิต

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง