ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หนุ่มใจคอไม่ดี! ขับปิคอัพกลับบ้านไม่ทันไร ถูกยิงเกือบทะลุกระจก ก่อนสูกสาวเดินไปท้ายรถเจอหลักฐานเด็ด เต็มๆสองตา!!

หนุ่มใจคอไม่ดี! ขับปิคอัพกลับบ้านไม่ทันไร ถูกยิงเกือบทะลุกระจก ก่อนสูกสาวเดินไปท้ายรถเจอหลักฐานเด็ด เต็มๆสองตา!!


วันที่ 30 มี.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพุทธภูมิ โสมภีร์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 5 ต.พลาวาส อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี อาชีพพ่อค้าขายอาหารตลาดนัด ร้องเรียนว่า เมื่อคืนวันที่ 29 มี.ค.61 เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะกลับจากขายอาหารที่ตลาดนัดในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อไปบ้านพักที่อำเภอไชยา พร้อมด้วยรถของน้องชายภรรยาอีกคันวิ่งตามหลังมา ในรถมีภรรยาและลูกๆ โดยให้ลูกๆ 3 คนนั่งในกระบะหลัง ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์-ละแม หรือเส้นทางเลียบชายทะเล ถึงบริเวณแยกบ้านใหญ่ อ.ท่าฉาง ก็ได้ถูกคนร้ายใช้ลูกแก้ว ยิงเข้าใส่ที่กระจกหน้ารถ ฝั่งคนขับทำให้กระจกแตกเป็นวงกลม ด้วยความตกใจ จึงรีบเร่งเครื่องยนต์ หนี และให้ภรรยาโทรแจ้งน้องชายที่ขับตามหลังมา หลังจากนั้นจึงได้แวะเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าฉาง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม.

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สร้างความหวาดกลัวให้กับพวกตนมาก เพราะหากกระสุนลูกแก้วทะลุกระจกเข้าไปในตัวรถได้ จะตรงกับตำแหน่งใบหน้าของตนพอดี และหากใช้ความเร็วสูง ตนเชื่อว่าจะเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำได้ทันที ตนเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการก่อกวนของกลุ่มบุคคลที่อาจจะประสงค์ต่อทรัพย์

เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ไม่มีรถวิ่งสวน มีเพียงรถของตนและน้องชายภรรยา 2 คันเท่านั้น จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นซุ่มยิงจากริมถนน ก่อนสอบถามไปที่ลูกสาวของคนขับบอกว่าเดินไปที่หลังรถเจอลูกแก้วตกอยู่ท้ายรถจึงคาดว่าว่าจะใช้ลูกแก้วในการยิง พอลองเอามาเทียบดูกับรอยกระจกแตกปรากฎว่าตรงกันเป๊ะ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบด้วย เนื่องจากเป็นอันตรายต่อผู้เดินทางในเวลากลางคืนเป็นอย่างมาก


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้บนถนนสายดังกล่าว เคยเกิดเหตุมีคนร้ายใช้กระสุนลูกแก้ว ยิงเข้าใส่รถยนต์ที่สัญจรไปมา มาแล้ว 1 ครั้ง แต่ห่างจากจุดดังกล่าวไปประมาณ 5 กม. ซึ่งนายพุทธิภูมิ ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ที่มา: siamnews 

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง