ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เฮลั่นสนั่นโรงเรียน! เมื่อเด็กทุกคนมาฟังผลสอบ ปรากฎว่าสอบได้ที่ 1 ทุกคน ก่อนครูเผยเหตุผล ขอลอกเลียนแบบทันที!

เฮลั่นสนั่นโรงเรียน! เมื่อเด็กทุกคนมาฟังผลสอบ ปรากฎว่าสอบได้ที่ 1 ทุกคน ก่อนครูเผยเหตุผล ขอลอกเลียนแบบทันที!      



เป็นที่ชื่นใจและประทับใจของชาวเน็ตกันอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นภาพการประกาศผลการศึกษาของนักเรียนชั้น ป.6/1 โรงเรียนบ้านนาสีนวล จังหวัดสกลนคร ที่หลายคนต้องประหลาดใจ เมื่อนักเรียนทุกคนสอบได้ที่ 1 กันยกชั้นสาเหตุที่นักเรียนทั้งชั้นสอบได้ที่ 1 ต้องยกให้เป็นความดีความชอบของ คุณครูชินกร พิมพิลา หรือ “ครูติ๊ก” คุณครูรุ่นใหม่ไฟแรง

เป็นการปิดเทอมที่ตื่นเต้นมากๆเด็กต่างลุ้นว่าจะได้ลำดับที่เท่าไหร่ ตามความคิดเดิม ๆที่มีมาแต่เมื่อเปิดดูประกาศผลการเรียนรู้ เด็กก็ต่างงงว่า ผมได้ที่เท่าไหร่ครับเธอได้ที่ 1 จริงไหมครับ จริง ดูสิว่าเธอได้ที่หนึ่งด้านใดเราจะจัดลำดับเรียงคะแนนทำไม เพราะคนเรามีความแตกต่างระหว่างบุคคล



ถ้าจะติดต่อกับครู สแกนคิวอาร์โค้ชนะ แล้วจะเห็นทุกปีเราก็จะมาเจอกันทุกวันที่ 12 เมษา เวลา 9.00 น.คิดถึงนะ เด็กพิเศษของครูพิเศษ
ป. 61 รร. บ้านนาสีนวล สกลนครประกาศผลสอบแล้วนะเด็ก ๆ พรุ่งนี้ครูรอแจกประกาศผลไม่เรียงลำดับความเก่ง แต่ทุกคนเก่งในแบบที่แตกต่างกันและมีความเฉพาะด้าน ที่โอเน็ตไม่ได้วัดพวกเธอนหมายความว่า สอบได้ที่ 1 ยกชั้นที่ว่านั้น ไม่ได้หมายถึงการเป็นที่ 1 ในผลการสอบด้านวิชาการ แต่เป็น “ที่ 1 ในด้านที่นักเรียนแต่ละคนถนัด”ได้ผลสอบไปดู ถึงกับยิ้มกันใหญ่ ไม่มีใครเสียใจเลยสักคน
ดีใจสุดๆ เลยครับ แบบนี้กำลังใจขึ้นเยอะเลยใบรายงานผลสอบมี QR Code ไว้สแกนติดต่อกับอาจารย์ซะด้วยทันสมัย สมกับเป็นครูยุค 4.0 จริงๆแนบภาพที่เด็กๆ ถ่ายร่วมกับครูให้เป็นที่ระลึกได้ที่ 1 ยกชั้นเลยความเห็นจากชาวเน็ตท่านอื่นๆ ที่ชื่นชมในแนวคิดของคุณครูท่านนี้

ขอชื่นชมที่ครูติ๊กให้กำลังใจนักเรียนทุกคน ไม่ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ เพราะคนเราแต่ละคนนั้นมีความเก่งไม่เหมือนกัน ไม่จำเป็นว่านักเรียนจะต้องเก่งทุกวิชา แต่ให้เก่งในด้านที่ตัวเองถนัด แล้วไปให้สุดๆ รับรองว่าพวกเขาจะต้องเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีและมีความสุขกับชีวิตแน่นอนนี่แหละคุณครูที่ชาติเราต้องการ!

ขอบคุณ ชินกร พิมพิลา

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง