ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เกาะหัวโล้น ไร้เงาต้นไม้ ขนาดเท่าครึ่งสนามบอล แต่กลับมีผู้อาศัยอยู่นับพันคน เผยวิถีชีวิตสุดแออัด แต่พวกเขากลับไม่อยากไปไหน!





เกาะเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนในการเลือกมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด ผู้คนให้คำนิยามเกี่ยวกับเกาะไปต่างๆนานา แต่สิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนมาก็คือชายฝั่งที่สวยงามและน้ำทะเลที่ใสสะอาด ซึ่งบนโลกนี้ยังมีเกาะเล็กๆอันสวยงามที่เรายังไม่เคยได้ไปอยู่อีกมากมาย
แต่สำหรับเกาะที่เราจะนำมาพูดถึงก็คือเกาะ Migingo ซึ่งอยู่ที่ราบสูงแอฟริกาตะวันออกของทะเลสาบ Victoria ซึ่งเป็นทะสาบที่ใหญ่ที่สุดใรทวีปแอฟริกา มีพื้นที่กว่า 70,000 ตารางกิโลเมตร และเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

เกาะ Migingo อยู่ที่กลางทะเลสาบ Victoria แห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ระหว่างพรมแดนของเคนยาและยูกันดา เกาะมีลักษณะเป็นหินผา พื้นที่เพียง 2,000 ตารางเมตร แต่ที่นี้กลับมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1000คน เท่ากับมีพื้นที่ใช้สอย 2 ตารางเมตร ต่อคนหนึ่งคน ที่นี้จึงนับว่าเป็นเกาะที่มีประชากรอยู่มากที่สุด
ในปี 1990 มีชาวเคนย่า2คนย้ายมาตั้งรกรากที่นี้ จากนั้นจึงค่อยๆ มีชาวประมงจากยูกันดาและแทนซาเนียเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี้ตาม เมื่อปี 2009 ที่นี้มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 130 คน ถ้าเทียบกับพื้นที่ 2000 ตร.มแล้ว ก็ถือว่าสามารถอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย

แต่แล้วประชากรที่เกาะแห่งนี้ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่บนเกาะนี้ถึง 1000คน ถนนบนเกาะนี้ขรุขระมาก และแทบจะไม่มีต้นไม้ให้เห็น เนื่องจากบริเวณน่านน้ำรอบเกาะแห่งนี้ชุมไปด้วยปลาทิลอาเพียและปลากระพง ชาวเกาะส่วนใหญ่จึงมีอาชีพเป็นชาวประมงและเปิดร้านขายปลา รายได้ของพวกเขายังนับว่าอยู่ในระดับค่อนข้างดี เทียบเท่ากับเงินรายได้ 2-3 เดือนของคนปกติทั่วไปที่อาศัยอยู่ในแอฟริกา
แต่อย่าคิดว่าที่นี้เป็นแค่เกาะเล็กๆธรรมดา เพราะที่นี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีโรงพยาบาล ซูปเปอร์มาร์เก็ต สถานีตำรวจ และกระท่อมที่อยู่อาศัยเต็มเกาะ แต่ทุกคนก็ไม่คิดที่จะย้ายออกไปจากเกาะแห่งนี้ เพราะไม่อยากกลับไปอยู่อาศัยบนแผ่นดินเหมือนเดิม

ผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะกล่าวว่า อยู่ที่นี้อย่างน้อยก็มีกิน ถ้าย้ายกลับไปบนแผ่นดิน ก็ไม่รู้ว่าจะทำอาชีพอะไรเพื่อหากิน แต่เนื่องจากการะทำประมง จำนวนปลาบริเวณรอบๆเกาะแห่งนี้ จึงค่อยๆน้อยลง ซึ่งจะทำให้รายได้ของชาวประมงจะได้รับผลกระทบในที่สุด
ขอบคุณที่มา https://www.siamnews.com

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก