ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ล็อกหนุ่มคลั่ง! มีดจี้คอลูก 5ขวบเป็นตัวประกัน ขู่ฆ่าทิ้ง! เหตุเครียดเมียหนีมีผัวใหม่


ล็อกหนุ่มคลั่ง! มีดจี้คอลูก 5ขวบเป็นตัวประกัน ขู่ฆ่าทิ้ง! เหตุเครียดเมียหนีมีผัวใหม่



เมื่อวันที่ 28 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองกี่ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งจับลูกชายวัย 5 ขวบเป็นตัวประกันที่ห้องห้องเช่าเลขที่ 22/1 ม.3 ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยเกาะ 12 หนองกี่ จำนวนกว่า 50 คน เพื่อเข้าระงับเหตุและช่วยเหลือตัวประกัน

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าทาวน์เฮ้าส์ติดกันมีทางเข้าออกทางเดียว มีเหล็กดัดทำเป็นประตูเลื่อน ซึ่งมีการนำไม้แขวนเสื้อมามัดให้แน่น ภายในพบนายวีระพงษ์ บุญกอง อายุ 29 ปี กำลังจับลูกชายเป็นตัวประกัน เนื่องจากเครียดที่น.ส.สิเรียม นาแข็ง ภรรยา อายุ 26 ปี ตีตัวออกห่างไปมีสามีใหม่ และหนีไปเมื่อหลายวันที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้นายวีระพงษ์เกิดอาการเครียดหนักและจับลูกชายตัวเองแล้วใช้มีดปลายแหลมจี้เป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องขอคุยกับแฟนสาวเพื่อตกลงปัญหา โดยได้ขังตัวเองไว้ภายในบ้านหลายชั่วโมง

ต่อมาเวลา 17.30 น. แม่ของนายวีระพงษ์ได้มาถึงที่เกิดเหตุ และช่วยเกลี้ยกล่อมลูกชายให้ปล่อยหลานวัย 5 ขวบที่จับเป็นตัวประกันออกมา แต่ไม่เป็นผล จนเมื่อเวลา 18.00 น. นายวีระพงษ์ บอกว่าจะถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กและขู่ว่าจะฆ่าลูกทิ้ง ถ้าหากแฟนสาวไม่กลับมา ท่ามกลางชาวบ้านละแวกใกล้เคียงมามุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดต่อประสาน ภรรยาของนายวีระพงษ์ให้เดินทางมาช่วยเกลี้ยกล่อมอดีตสามี



ซึ่งเมื่อภรรยาเดินทางมาถึงหน้าบ้าน แต่กลับพูดกันไม่รู้เรื่อง ทั้งตะโกนด่ากันเสียงดัง ทำให้นายวีระพงษ์ยิ่งโมโหปิดไฟในบ้านทั้งหลัง และไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมาจากบ้าน มีเพียงการเคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊ก ของนายวีระพงษ์ ชื่อ “เด็กสร้างบ้านใหญ่ เสือจัก” ซึ่งมีภาพลูกชาย พร้อมเขียนข้อความว่า “ต่อไปจะมีใครต้องจากกันอีก” และภาพแขนคนถูกมีดกรีด มีก้อนเลือด ภาพมีดวางตรงต้นคอ สร้างความตกใจให้กับผู้เป็นแม่และยาย หลังจากใช้เวลาเกลี้ยกล่อมนานกว่า 10 ชั่วโมงก็ไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่จึงวางแผนบุกเข้าชาร์จเพื่อช่วยเหลือเด็กออกมาได้อย่างปลอดภัย และคุมตัวนายวีรพงษ์ไปสงบสติอารมณ์

จากการสอบถามเบื้องต้นนายวีระพงษ์ ให้การว่า ที่ก่อเหตุดังกล่าวเพราะเครียดที่ภรรยาหนีไปมีสามีใหม่ จึงสร้างสถานการณ์จับลูกเป็นตัวประกัน และใช้เลือดหมูมาเทกับพื้นให้ดูเสมือนจริง ก่อนถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก เพื่อเรียกร้องความสนใจให้ภรรยากลับมาหา จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





ที่มา ข่าวสด

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก