ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

‘พอแล้ว กลัวแล้ว’ คำขอสุดท้ายเหยื่อคดีประวัติศาสตร์ คืนบาปพรหมพิราม







นับเป็นอีกข่าวที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้ที่ได้อ่านและรับรู้ เมื่อ เด็กหญิงวัย 14 (เวลาเกิดเหตุ) ให้การว่าถูกรุมโทรมหลายครั้ง โดยชายกว่า 40 คน โดยครั้งที่โดนมากที่สุด คือ 11 คน เรื่องราวน่าเศร้าสลดเกิดขึ้น เมื่อ เจ้าหน้าที่มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขาภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว ได้นำแม่และผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งวันนี้เธออายุ 15 ปี แล้ว เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ พ.ต.ท.กิตติภูม ถิ่นกลาง สารวัตร(สอบสวน) เพื่อหาตัวกลุ่มคน




จุดเริ่มต้นคดีสุดอื้อฉาว ตราบาปที่ทุกคนอยากลืม แต่กลับไม่เคยลืม บางคนอาจจะเคยได้ดูหนัง “คืนบาปพรหมพิราม” แล้ว แต่เชื่อว่า แทบไม่มีใครได้เคยอ่านข่าวของจริง หรือ คนที่เคยอ่านอาจจะลืมเลือนไปแล้ว และวันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะขอย้อนรอยคดีคาวที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง...


อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835
ย้อนกลับไปในวันที่ 18 สิงหาคม 2520 ชาวตลาด อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กว่า 20 คน ได้เข้าร้องเรียนกับ พ.ต.อ.สมชาย ไชยเวช ผกก. และผู้สื่อข่าว “ไทยรัฐ” ประจำประจำจังหวัดพิษณุโลก ว่าได้มีวัยรุ่นราว 17 คน ได้ร่วมกันฉุดหญิงสาวคนหนึ่งไปข่มขืนจนถึงแก่ความตาย แล้วนำร่างไปให้รถไฟทับจนคอขาดกระเด็น เพื่ออำพรางคดี คดี แต่...ตำรวจไม่กล้าจับกุมเพราะผู้ต้องหาล้วนเป็นลูกหลานตำรวจ และผู้ใหญ่บ้าน เป็นวิพากษ์วิจารณ์แก่ชาวบ้าน...
จุดเริ่มต้นแห่งคดี เป็นเรื่องราวสุดชั่วช้าที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก หลังเหตุการณ์เกิดขึ้นนานนับเดือน แต่สุดท้าย ชาวบ้านก็อดรนทนไม่ได้ ต้องการให้ตำรวจและสื่อเปิดเผยความจริงที่น่าอดสู เมื่อเรื่องถึงมือสื่อ จึงต้องหาต้นตอแห่งความจริง และเรื่องราวของเหล่าทรชนก็พรั่งพรูไหลออกมาจากการสืบสวน




หญิงสาวคนหนึ่ง สวมเสื้อสีน้ำตาล กระโปรงสีขาวผ้าดิบ อายุราว 20 ปี ผิวดำแดง สูง 155 ซม. หน้ากลม ผมสั้น ถูกการ์ดรถไฟคนหนึ่งไล่ลงจากรถไฟ ขบวนรถเร็วที่ 37เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ในเวลา 5 ทุ่ม วันที่ 27 ก.ค.20 เหตุเพราะไม่ได้ซื้อตั๋ว โดยเธอได้แอบขึ้นรถจากสถานีบ้านดารา อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
“พี่อย่าไล่หนูลงเลย ขอร้องเถอะ” หญิงสาวยกมือไหว้ พลางกับร้องขอ ใบหน้ามีน้ำตานอง
แต่สิ่งที่ได้รับคือ เธอถูกปฏิเสธ ซึ่งนี่คือคำบอกเล่าจากพยานคนหนึ่งที่อยู่เหตุการณ์ หลังจากที่ลงจากรถ ลงในสถานีเล็กๆ ที่ชื่อ “พรหมพิราม” เธอก็เดินโซเซด้วยความหิว เพราะไม่มีเงินติดตัว กระทั่งเจอชายวัยรุ่น 2 คน “เดินไปอีก 300 เมตรสิ ข้างหน้ามีงานแต่งงาน เดี๋ยวจะพาไปกินข้าว”

หญิงสาวหลงเชื่อกอปรกับความหิวโหยจึงทำให้เดินตามชายแปลกหน้าไป เมื่อเดินไปสักพักเจอป่าที่เป็นข้าวโพด ชายวัยรุ่นแปลงกายเป็น ชายชั่วช้า และได้เรียกเพื่อนอีก 2 คนมา ช่วยกันลากหญิงต่างถิ่นเข้าป่าข้าวโพดและเข้าข่มขืนทีละคน...

เมื่อคนที่งานแต่งงาน ซึ่งห่างไปประมาณ 100 เมตร รู้เรื่อง ก็แห่กันมาจะข่มขืนอีก...
เธอโดนกระทำคนแล้วคนเล่า คนแล้วคนเล่า โดยมีพยานซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาซุ่มดู เธอพยายามร้องให้คนช่วย แต่เหมือนเสียงที่เธอร้องขอชีวิตนั้น ไม่ดังพอที่จะทำให้ใครเสี่ยงชีวิตช่วยเหลือ

ร่างของเธอถูกลากลึกเข้าไป ลึกเข้าไป กระทั่ง 2 ชั่วโมงผ่านไป ก็เหลือกลุ่มชายหื่นกลุ่มสุดท้าย ราว 7 คน แม้จะข่มขืนไปแล้ว แต่ก็จะข่มขืนอีก
“ขอข้าวกินได้ไหม ฉันหิวข้าว”



“ขอข้าวกินได้ไหม ฉันหิวข้าว”

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835



อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835
แต่สิ่งที่ได้รับคือ เธอถูกปฏิเสธ ซึ่งนี่คือคำบอกเล่าจากพยานคนหนึ่งที่อยู่เหตุการณ์ หลังจากที่ลงจากรถ ลงในสถานีเล็กๆ ที่ชื่อ “พรหมพิราม” เธอก็เดินโซเซด

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835
“พี่อย่าไล่หนูลงเลย ขอร้องเถอะ” หญิงสาวยกมือไหว้ พลางกับร้องขอ ใบหน้ามีน้ำตานอง

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835
เมื่อคนที่งานแต่งงาน ซึ่งห่างไปประมาณ 100 เมตร รู้เรื่อง ก็แห่กันมาจะข่มขืนอีก...

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1059835

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง