ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มรสุมเข้าไทยเตือน 13 จว.ใต้ฝนหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน กทม.โดนด้วย



เมื่อวันที่ 22 ก.ย. นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง “ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบถึงวันที่ 26 กันยายน 2560)”
ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 22 ก.ย. ระบุว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในบริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ส่งผลทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ด้าน น.ส.พะเยาว์ เมืองงาม ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา เปิดเผยว่า พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งในบริเวณ จ.เพชรบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และจ.สงขลา ลักษณะทางอุตุนิยมวิทยาที่สำคัญ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ห่างฝั่งทะเลคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ว่าที่ รต.ตระกูล โทธรรม ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 จ.สงขลา กล่าวว่า ศูนย์ฯมีพื้นที่รับผิดชอบ 5 จังหวัดมี.จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาสและ จ.สตูล ซึ่งขณะนี้พื้นที่ จ.สตูลกำลังได้รับผลกระทบน้ำท่วม 7 อำเภอ 22 ตำบล 113 หมู่บ้าน ทางศูนย์ฯได้สนับสนุนการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ส่งเรือท้องแบบ 23 ลำ รถสูบน้ำระยะไกล และเร่งผลิตน้ำดื่ม 10,000 ขวด
Cr:khaosod.co.th

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง