ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปิดตำนาน งูยักษ์ แห่ง “จังหวัดกาญจนบุรี” ที่เขมือบทหารญี่ปุ่น 2 คน ในครั้งเดียว !!





หลายๆท่านอาจจะเคยได้ดูจากภาพยนต์ หรือ อาจจะเคยเห็นงูที่มีขนาดไหน จากต่างประเทศ หรือ จากที่ไหนก็ตามแต่ แต่คุณๆท่านๆรุ้หรือไม่ว่า ประเทศไทยก็เคยมีตำนานงูยักษ์เช่นกัน วันนี้เราขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ตำนานงูยักษ์ แห่ง  “จังหวัดกาญจนบุรี”

เมื่อประมาณ ปีพ.ศ. 2485  ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีกองทัพญี่ปุ่นเข้ามาใน จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมากเพื่อทำที่มั่นในการโจมตีทหารอเมริกันกันและพันธมิตรในเขตภาคพื้นเอเชีย ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าดงดิบหนาทึบทำให้ทาง กองทัพญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความปลอดภัยเพื่อการหลบลี้จากกองกำลังฝ่ายตรงข้าม

ทหารญี่ปุ่นโหดร้ายมากใช้เชลยศึกที่จับมาได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควเพื่อให้รถไฟวิ่งผ่านลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ได้อย่างสะดวก ว่ากันว่าก่อนจะสร้างได้สำเร็จนั้น ต้องสังเวยชีวิตเชลยศึกไปร่วมหลายหมื่นคนจนมีคำพูดเปรียบเปรยว่า “หนึ่งไม้หมอนรถไฟแทนหนึ่งชีวิตที่เสีย” กันเลยทีเดียวหากมีโอกาสลองนับดูครับว่าเยอะแค่ไหน


มาถึงเรื่องหลักของเรากันบ้างครับ เรื่องตำนานงูยักษ์ที่เคยมีคนพูดถึง คุณลุงเล่าว่า สมัยนั้นทหารญี่ปุ่นได้ใช้ใจกลางป่าจ.กาญจนบุรีเป็นที่มั่นในการทำสงครามแน่นอนว่าต้องรุกล้ำเข้าไปในเขตของสัตว์ป่าที่อยู่ลึกจนแทบไม่เคยมีชาวบ้านคนใดเคยเข้าไปสำรวจมาก่อน ทั้งในถ้า ซอกหิน ต้นไม้ต่างๆนาๆถูกดัดแปลงทำเป็นป้อมปราการพร้อมรบ เมื่อตกกลางคืนก็ได้มีการจัดเวร
ยามออกลาดตะเวนรอบๆฐานที่มั่นแบ่งเป็นกะ 10-15 คน คอยออกลาดตะเวนทุกคืน แต่แล้วบางคืน กองลาดตะเวนก็กลับมาไม่ครบ หายไปทีละ 3-5 คน เมื่ออกค้นหาไม่พบจึงคิดว่าเป็นข้าศึกแอบลอบเข้ามาโจมตี จึงได้จัดเวรยามให้เข้มงวดขึ้นอีกเท่าตัว แต่แล้วก็เกิดเหคุการณ์เช่นนี้คือมีทหารหายไปแทบๆจะ 3คืน ต่อครั้ง จนผู้บังคับบัญชาทนไม่ไหว รุ่งเช้าจึงจัด กำลังหลายร้อยออกค้นหาทหารที่หายไป





หลายๆท่านอาจจะเคยได้ดูจากภาพยนต์ หรือ อาจจะเคยเห็นงูที่มีขนาดไหน จากต่างประเทศ หรือ จากที่ไหนก็ตามแต่ แต่คุณๆท่านๆรุ้หรือไม่ว่า ประเทศไทยก็เคยมีตำนานงูยักษ์เช่นกัน วันนี้เราขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ตำนานงูยักษ์ แห่ง  “จังหวัดกาญจนบุรี”

เมื่อประมาณ ปีพ.ศ. 2485  ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีกองทัพญี่ปุ่นเข้ามาใน จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจำนวนมากเพื่อทำที่มั่นในการโจมตีทหารอเมริกันกันและพันธมิตรในเขตภาคพื้นเอเชีย ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าดงดิบหนาทึบทำให้ทาง กองทัพญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความปลอดภัยเพื่อการหลบลี้จากกองกำลังฝ่ายตรงข้าม

ทหารญี่ปุ่นโหดร้ายมากใช้เชลยศึกที่จับมาได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำแควเพื่อให้รถไฟวิ่งผ่านลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ได้อย่างสะดวก ว่ากันว่าก่อนจะสร้างได้สำเร็จนั้น ต้องสังเวยชีวิตเชลยศึกไปร่วมหลายหมื่นคนจนมีคำพูดเปรียบเปรยว่า “หนึ่งไม้หมอนรถไฟแทนหนึ่งชีวิตที่เสีย” กันเลยทีเดียวหากมีโอกาสลองนับดูครับว่าเยอะแค่ไหน

มาถึงเรื่องหลักของเรากันบ้างครับ เรื่องตำนานงูยักษ์ที่เคยมีคนพูดถึง คุณลุงเล่าว่า สมัยนั้นทหารญี่ปุ่นได้ใช้ใจกลางป่าจ.กาญจนบุรีเป็นที่มั่นในการทำสงครามแน่นอนว่าต้องรุกล้ำเข้าไปในเขตของสัตว์ป่าที่อยู่ลึกจนแทบไม่เคยมีชาวบ้านคนใดเคยเข้าไปสำรวจมาก่อน ทั้งในถ้า ซอกหิน ต้นไม้ต่างๆนาๆถูกดัดแปลงทำเป็นป้อมปราการพร้อมรบ เมื่อตกกลางคืนก็ได้มีการจัดเวร
ยามออกลาดตะเวนรอบๆฐานที่มั่นแบ่งเป็นกะ 10-15 คน คอยออกลาดตะเวนทุกคืน แต่แล้วบางคืน กองลาดตะเวนก็กลับมาไม่ครบ หายไปทีละ 3-5 คน เมื่ออกค้นหาไม่พบจึงคิดว่าเป็นข้าศึกแอบลอบเข้ามาโจมตี จึงได้จัดเวรยามให้เข้มงวดขึ้นอีกเท่าตัว แต่แล้วก็เกิดเหคุการณ์เช่นนี้คือมีทหารหายไปแทบๆจะ 3คืน ต่อครั้ง จนผู้บังคับบัญชาทนไม่ไหว รุ่งเช้าจึงจัด กำลังหลายร้อยออกค้นหาทหารที่หายไป

จนในที่สุดก็ได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่ง เป็นโพลงลึกมืดและบรรยากาศหนาวเย็น จึงส่งทหารจำนวนหนึ่งเข้าไปดู ระหว่างที่ส่งทหารเข้าไปนั้นฝ่ายที่เฝ้าดูอยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงปืนขึ้น 1-2 ครั้ง จึงทำให้คิดว่าเจอข้าศึก จึงได้ส่งทหารอีกกลุ่มเข้าไปทันที ผ่านไปไม่กี่อึดใจ ทหารเหล่านั้นวิ่งกลับออกมาอย่างไม่คิดชีวิต พลางอุทานว่า “สัตว์ประหลาด” ผู้บังคับบัญชาและเหล่าทหารที่รออยู่ข้างนอกต่างพากันแตกตื่น ในที่สุดก็มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่าให้เอาระเบิดมาระเบิดถ้ำนี้ซะ        ระเบิดจำนวนมากถูกส่งมาระเบิดปากถ้ำปริศนาดังกล่าว โดยเริ่มกดชนวนระเบิดไล่ไปเรื่อยๆจั้งแต่ปากถ้ำ จนถึงภายในถ้ำ อย่างระมัดระวัง และแล้วภาพที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เผยอยู่ตรงหน้า  เมื่อพบกับ งูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาวหลายสิบเมตร ความกว้างขนาดคตู้กับข้าวที่อยู่ในครัว กำลังกระเสือกกระสนพาร่างอันสะบักสะบอม เลื้อยออกไปจากถ้ำ  ทหารญี่ปุ่นไม่รอช้าจัดการกระหน่ำยิงไม่ยั้งไปยังงูยักษ์ต้นเหตุของการหายตัวไปของเหล่าทหารลาดตะเวน ก่อนที่ มันจะขาดใจตายอยู่ตรงนั้น ทางทหารก็ได้หั่นเนื้อของงูยักษ์ออกเป็นชิ้นๆเพื่อความสะใจ ละเป็นการล้างแค้นให้กับผู้ที่ถูกมันคร่าชีวิตไปอย่างสาสม

หลังจากเหล่าทหารสำรวจถ้ำโดยละเอียดแล้วก็พบว่ามีโครงกระดูกเป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่าหลักร้อย ทั้งคนและสัตว์ใหญ่ เรื่องราวทั้งหมดจึงเป็นเรื่องเล่าสืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนปัจจุบันที่จังหวัด กาญจนบุรี

คุณลุงได้เล่าเพิ่มว่าเรื่องดังกล่าวก็ได้ยินเล่า ปากต่อปากมาเหมือนกันยืนยันว่าเป็นเรืองจริงแต่ข้อมูลบางอย่างอาจผิดเพี้ยนไปบ้างตามคนเล่าต่อกันมา  เมื่อมีนักท่องเที่ยวทราบว่าคุณลุงเป็นคนพื้นที่ ก็มักจะถามเรื่องนี้อยู่ตลอด

                                  คลิป

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก