ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ไม่จบ!!! ทีมรถตู้เพื่อนเด็ก 17 ที่ถูกยิง ลั่นขอแก้แค้นแทนเพื่อน จะขอเอาชีวิตคู่กรณีแบบไม่สนใจกฎหมาย!!! (มีคลิป)


จากกรณีนายนวพล ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 ถูกวิศวกรยิงเสียชีวิต หลังจากแค่มีปัญหากันเรื่องที่จอดรถนั้น ล่าสุด ที่ศูนย์นิติเวช งานนิติพยาธิ โรงพยาบาลชลบุรี นางมณีพร ผึ่งผาย อายุ 47 ปี แม่นายนวพล ได้เดินทางมารับศพลูกชาย ก่อนพูดแบบเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รถคันที่เกิดเหตุอยู่ข้างกัน ลูกชายแค่ลงไปช่วยเจรจา โดยคุยกับแม่ของวิศวกร แต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงวิ่งไปที่ประตูฝั่งคนขับ ก่อนถูกยิง โดยที่ลูกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จึงวิ่งไปไกลหลายเมตร การที่มากล่าวหาว่าเด็กรุมกระทืบนั้น กล้องวงจรปิดก็มี ให้เห็นว่าโดนกระทืบตอนไหน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมมาเที่ยวพร้อมกับลูก เมีย และแม่ ทำไมต้องพกปืนมาด้วย คงต้องไปตรวจสอบสุขภาพจิตวิศวกรคนที่ลงมือยิง





จากกรณีนายนวพล ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 ถูกวิศวกรยิงเสียชีวิต หลังจากแค่มีปัญหากันเรื่องที่จอดรถนั้น ล่าสุด ที่ศูนย์นิติเวช งานนิติพยาธิ โรงพยาบาลชลบุรี นางมณีพร ผึ่งผาย อายุ 47 ปี แม่นายนวพล ได้เดินทางมารับศพลูกชาย ก่อนพูดแบบเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รถคันที่เกิดเหตุอยู่ข้างกัน ลูกชายแค่ลงไปช่วยเจรจา โดยคุยกับแม่ของวิศวกร แต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงวิ่งไปที่ประตูฝั่งคนขับ ก่อนถูกยิง โดยที่ลูกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จึงวิ่งไปไกลหลายเมตร การที่มากล่าวหาว่าเด็กรุมกระทืบนั้น กล้องวงจรปิดก็มี ให้เห็นว่าโดนกระทืบตอนไหน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมมาเที่ยวพร้อมกับลูก เมีย และแม่ ทำไมต้องพกปืนมาด้วย คงต้องไปตรวจสอบสุขภาพจิตวิศวกรคนที่ลงมือยิง



ชมคลิป





แถมยังได้โวยชาวเน็ตที่ต่อว่ากลุ่มวัยรุ่นยกพวกไปรุมกระทืบวิศวกร โดยบอกว่าจะกระทืบได้อย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายนั่งอยู่ในรถ แต่ยอมรับว่ามีการรุมทำร้ายหลังจากที่ใช้อาวุธปืนยิงเด็กแล้ว เรื่องนี้ตำรวจในที่เกิดเหตุก็ทราบดีว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร นางมณีพร แม่ของนายนวพล ผึ่งผาย กล่าวด้วยว่า”ฉันยอมติดคุก ถ้าฉันไปดักยิงลูกเขาที่หน้าโรงเรียนบ้างจะว่ายังไง”



จากกรณีนายนวพล ผึ่งผาย อายุ 17 ปี เด็กนักเรียนชั้น ม.4 ถูกวิศวกรยิงเสียชีวิต หลังจากแค่มีปัญหากันเรื่องที่จอดรถนั้น ล่าสุด ที่ศูนย์นิติเวช งานนิติพยาธิ โรงพยาบาลชลบุรี นางมณีพร ผึ่งผาย อายุ 47 ปี แม่นายนวพล ได้เดินทางมารับศพลูกชาย ก่อนพูดแบบเปิดใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า รถคันที่เกิดเหตุอยู่ข้างกัน ลูกชายแค่ลงไปช่วยเจรจา โดยคุยกับแม่ของวิศวกร แต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงวิ่งไปที่ประตูฝั่งคนขับ ก่อนถูกยิง โดยที่ลูกไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จึงวิ่งไปไกลหลายเมตร การที่มากล่าวหาว่าเด็กรุมกระทืบนั้น กล้องวงจรปิดก็มี ให้เห็นว่าโดนกระทืบตอนไหน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมมาเที่ยวพร้อมกับลูก เมีย และแม่ ทำไมต้องพกปืนมาด้วย คงต้องไปตรวจสอบสุขภาพจิตวิศวกรคนที่ลงมือยิง


แถมยังได้โวยชาวเน็ตที่ต่อว่ากลุ่มวัยรุ่นยกพวกไปรุมกระทืบวิศวกร โดยบอกว่าจะกระทืบได้อย่างไรในเมื่ออีกฝ่ายนั่งอยู่ในรถ แต่ยอมรับว่ามีการรุมทำร้ายหลังจากที่ใช้อาวุธปืนยิงเด็กแล้ว เรื่องนี้ตำรวจในที่เกิดเหตุก็ทราบดีว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร นางมณีพร แม่ของนายนวพล ผึ่งผาย กล่าวด้วยว่า”ฉันยอมติดคุก ถ้าฉันไปดักยิงลูกเขาที่หน้าโรงเรียนบ้างจะว่ายังไง”



ด้าน พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ จันทร์ศรีเพชร รอง ผกก.สอบสวน สภ.แสนสุข กล่าวถึงคดีว่ากรณีเด็ก ม.4ถูกยิง ได้มีการตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวไปแล้ว ด้วยวงเงิน 2 แสนบาท เนื่องจากตำรวจเห็นว่าไม่ได้หลบหนี พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่



ซึ่งและหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งได้โพส์ตภาพเละข้อความบนพื้นส่วนตัวถึงนายนวพล ผึ่งผาย หรือ ปอนด์ ผู้ตาย โดยระบุว่า…
“ปอนด์ไหนบอกจะไม่ทิ้งพี่ไง รู้ไหมพี่คิดถึงแทบใจจะขาด อยู่ด้วยกันเล่นดัวยกันต่อยกันทุกวันตั้งแต่เด็กๆ ทำไมต้องมาเกิดเรื่องร้ายกับครอบครัวกูด้วยน้องกูยังเด็กอยู่เลย ทำไมมึงต้องมาเก่งกับเด็ก เก่งจริงมึงมากับกูนี่ มึงพากคนที่กูรักไปกูจะพากคนที่มึงรักเหมือนกับกูจะเอาชีวิตมึง มึงค่อยดูกูละกัน”







โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง