ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

โดนแล้ว !! ทหารในคลิปดัง ที่บุกเข้าไปต่อยพนักงานออฟฟิต ล่าสุดถูกผู้บังคับบัญชาลงโทษแล้ว !! (มีคลิป)


จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ @ความเจ็บปวด ที่งดงาม ซึ่งเผยแพร่คลิป เป็นชายแต่งตัวคล้ายทหาร เข้าทำร้ายชายหนุ่มในออฟฟิศ แต่ไม่มีใครทราบถึงต้นสายปลายเหตุว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร กระทั่งคลิปดังกล่าวถูกแชร์ส่งต่อไปทั่วโซเชี่ยล ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ชายแต่งกายคล้ายทหารคือทหารจริงชื่อ จ.ส.อ.วิทูรย์ แดงชาติ อายุ 36 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ มีตำแหน่งเป็นนายสิบช่างอาวุธ สังกัดกองร้อยมณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก โดยบุกเข้าไปก่อเหตุภายในบริเษัทสินเชื่อแห่งหนึ่งใน อ.เมืองบุรีรัมย์
เนื่องจากหึงหวงภรรยาที่มีพนักงานหนุ่มรายหนึ่ง เข้ามาพูดจาหยอกล้อถึงเรื่องส่วนตัว แม้ว่าฝ่ายภรรยา จ.ส.อ.วิทูรย์ จะพยายามบอกกล่าวแล้วว่า ให้เลิกมาพูดคุยแบบหยอดๆอีก เพราะสามีหึงหวงมาก แต่พนักงานหนุ่มรายดังกล่าวก็ยังไม่ฟัง ก่อนจะเกิดเรื่องเกิดราวขึ้น โดยหลังเกิดเหตุฉาวขึ้น จ.ส.อ.วิทูรย์ ได้รับบาดเจ็บที่แขน จากการโดนรุมตี รวมทั้งถูกผู้บังคับบัญชาสั่งตั้งกรรมการสอบสวนและลงกักขังบริเวณไปแล้ว ส่วนภรรยาก็ตัดสินใจขอลาออกจากที่ทำงานนี้ทันที
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถามเรื่องราวกับทาง จ.ส.อ.วิทูรย์ อีกครั้ง ซึ่งนายสิบช่างอาวุธนายนี้ เผยว่า ตนแต่งงานกับภรรยาอายุ 35 ปี จนมีลูกด้วยกัน 2 คน ปกติเป็นคนรักและหวงภรรยามาก พอภรรยากลับมาเล่าว่ามีเพื่อนพนักงานชาย ชอบมาหยอกล้อ ลักษณะแอบหยอดตามประสาคนเจ้าชู้ เลยรู้สึกไม่พอใจ วันนั้นเป็นวันที่ 5 ม.ค. จึงบุกไปหาที่ทำงานเพื่อจะเคลียร์ให้รู้เรื่อง แต่ปรากฏว่าตะโกนเรียกก็ไม่มีใครตอบ ประตูก็ไม่ยอมมาเปิด แถมยังเหนี่ยวรั้งไม่ให้ภรรยาตนลงมาเปิดประตูอีก ตนจึงตัดสินใจปีนเข้าไปด้านใน และเกิดเรื่องชกต่อกันตามคลิป โดยส่วนที่คลิปโดนตัดออกไปคือ ตอนที่กลุ่มพนักงานชายเหนี่ยวรั้งขังภรรยาตนไว้ อีกส่วนคือช่วงหลังจากนั้นที่พวกเขาใช้ไม้รุมตีรุมฟาดจนตนบาดเจ็บ

เช่นเดียวกับผู้เป็นภรรยา ที่ให้การตรงกันว่า ตอนที่เข้าทำงาน ได้บอกกับเพื่อนพนักงานชายทุกคนแล้วว่า มีครอบครัวมีลูกแล้ว สามีขี้หึงด้วย ไม่ชอบให้มาหยอกล้อแบบถึงเนื้อถึงตัว ซึ่งทุกคนเชื่อ แต่นายแซน (นามสมมุติ) กลับไม่ฟัง และยังทำพฤติกรรมแบบเดิม ทั้งหยอกล้อทั้งหยอดคำพูด พอตนกลับบ้านไปก็ไปเล่าให้สามีฟัง สามีเลยไม่พอใจ วันเกิดเหตุ พอสามีมาตะโกนเรียก ตนกำลังจะลงไปเปิดประตู แต่ถูกพนักงานชายคนอื่นกีดขวางไว้ แต่พอสามีพังประตูเข้ามาได้ก็เป็นไปตามคลิป ซึ่งตนพยายามดึงรั้งสามีแล้ว โดยคลิปที่ถูกตัดไปคือหลังจากนั้น ซึ่งเป็นช่วงที่ชุลมุน มีพนักงานชาย 3 – 4 คน ถือแท่งเหล็กอ้อมไปที่ด้านหลังสามี ก่อนจะง้างตีอย่างแรง แต่สามีเอาแขนป้องกันไว้เลยบาดเจ็บแค่แขน สุดท้ายตนต้องตัดสินใจลาออก เพราะทำงานไปก็ไม่มีความสุข



โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก