ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เปิดคลิปช็อกคดีฉาว ตำรวจยิงเด็กชายวัย 6 ขวบดับ อ้างป้องกันตัว





เปิดคลิปช็อกคดีฉาว ตำรวจยิงเด็กชายวัย 6 ขวบดับ อ้างป้องกันตัว






เด็กชายเจเรมี มาร์ดิ

         เผยคลิปช็อกปนสลด นาทีเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ รัวกระสุนยิงเด็กชายวัย 6 ขวบเสียชีวิต หลังขับรถไล่ล่าพ่อเด็กจนจนมุม อ้างไม่รู้มีเด็กอยู่ภายในรถ

         เว็บไซต์เมโทร รายงานว่า ศาลสหรัฐฯ เผยคลิปวิดีโอหลักฐานจากคดีช็อกที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐลุยเซียนา ได้ใช้อาวุธปืนยิงเด็กชายเจเรมี มาร์ดิส วัย 6 ขวบ ในเมืองมาร์กส์วิลล์จนเสียชีวิต อ้างเป็นการรัวยิงขู่และป้องกันตัว หลังจากที่พวกเขาได้ขับรถไล่ล่า คริสโตเฟอร์ ฟิว พ่อของเด็ก โดยให้เหตุผลว่าเขาขับรถผิดกฎจราจร

         ในวันเกิดเหตุ (3 พฤศจิกายน 2558) คริสโตเฟอร์ได้พาลูกชายไปที่บาร์แห่งหนึ่ง และได้ทานข้าวกันกับ เมแกน ดีซอน คู่หมั้นของเขา แต่แล้วทั้งคู่ก็มีปากเสียงกัน ทำให้ต้องแยกกันกลับบ้าน คริสโตเฟอร์บึ่งรถออกไปกับลูกชาย ส่วนเมแกนนั้นนั่งรถอีกคันหนึ่งไป แต่แล้วด้วยเหตุผลอะไรไม่ทราบได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไล่ตามรถของคริสโตเฟอร์ไปจนจนมุม และเมื่อรถจอดก็ได้คว้าปืนขึ้นมารัวยิงเข้าไปในรถ แม้ว่าคริสโตเฟอร์จะพยายามยกมือแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ และจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจเรมี่เสียชีวิต


คริส ฟิว และ เจเรมี มาร์ดิ ลูกชาย

         คดีนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในช่วงนั้น เพราะแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเกินเหตุ ขณะที่เหตุผลที่ตามล่าคริสโตเฟอร์ก็ไม่ชัดเจน แต่จากการคาดเดาของเมแกน เธอเผยว่าคริสโตเฟอร์อาจจะขับรถฝ่าไฟแดงในวันนั้น หรือไม่ตำรวจอาจเห็นว่าเธอกับเขาทะเลาะกันก่อนที่จะบึ่งรถออกไปจึงเกิดความสงสัยบางอย่าง

         หลังจากคดีนี้ถูกนำขึ้นศาลในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา และล่าสุดศาลก็ได้เผยคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์วันนั้นออกมาให้คนทั่วโลกได้ชมกัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นภาพที่น่าสลดใจมาก เมื่อตำรวจได้รัวยิงเข้าไปในรถของคริสโตเฟอร์ชุดใหญ่ โดยที่เขาเองก็พยายามยกมือแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ



 เดอร์ริค สแตฟฟอร์ด (ซ้าย), นอร์ริส กรีนเฮาส์ (ขวา)

         จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ เจ้าหน้าที่เดอร์ริค สแตฟฟอร์ด วัย 32 ปี และเจ้าหน้าที่นอร์ริส กรีนเฮาส์ วัย 23 ปี ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนา และขณะนี้คดียังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล โดยทนายฝ่ายจำเลยเผยว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 รายไม่รู้ว่ามีเด็กอยู่ในรถและทำไปเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น แม้ดูจากรูปการณ์แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความจำเป็นใดต้องใช้ปืนเลยก็ตาม


โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง

#ใหญ่แม่งงคับซอยนักเลงรถซิ่งบางพลี... (10'ก.พ.60)

Credit  @บอล นางแดด

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก