ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

สลดหนัก แก๊งจีนลวง 2 สาวป่วยจิตไปฆ่า เพื่อเอาศพไปขายเป็น "เจ้าสาวผี"







สลดหนัก แก๊งจีนลวง 2 สาวป่วยจิตไปฆ่า เพื่อเอาศพไปขายเป็น "เจ้าสาวผี"






 จีนจับ 3 คนร้าย ลวง 2 หญิงป่วยจิตไปฆ่า เอาศพขายให้ลูกค้าใช้เป็นเจ้าสาวผี จับแต่งงานกับชายผู้ล่วงลับ เพื่อให้ครอบครัวไม่โดนสาป 

              วันที่ 29 สิงหาคม 2559 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์  เปิดเผยรายงานเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนจับกุมตัวชาย 3 ราย ฐานเกี่ยวข้องการฆาตกรรมหญิง 2 ศพ เพื่อนำไปขายเป็นเจ้าสาวผี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อชาย 2 ราย คือ นายหม่า และ นายอัน อ้างตัวเป็นคนทำอาชีพหาคู่ ตกปากรับคำหญิง 2 รายซึ่งมีอาการป่วยทางจิตว่าจะหาเจ้าบ่าวให้กับเธอ จากนั้นลวงเธอออกจากบ้าน ลอบฉีดยาระงับประสาทขนานแรงใส่จนหญิงทั้ง 2 เสียชีวิต 






 จากนั้นชายทั้งสองได้จ้างนายหยาง ขนศพหญิงทั้ง 2 ไปเมืองหยูหลิน ในมณฑลส่านซี และนำไปขายเป็นเจ้าสาวผี ในราคา 35,000 หยวน (ประมาณ 175,000 บาท) แต่สุดท้ายก็ถูกจับกุม 

              จนล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาแก่คนร้าย 3 ราย คือ ข้อหาลักพาตัว ค้ามนุษย์ และฆาตกรรม แก่นายหม่า, ข้อหาลักพาตัวและค้ามนุษย์ แก่นายอัน และข้อหาสมรู้ร่วมคิด แก่นายหยาง ซึ่งทั้งนี้ยังได้ตรวจสอบพบว่า ทั้งสามรายไม่ได้เพิ่งก่อเหตุลักษณะดังกล่าวเป็นครั้งแรก 

              สำหรับการซื้อ-ขายเจ้าสาวผีนั้น สืบเนื่องมาจากความเชื่อการจัดงานวิวาห์ศพ ซึ่งแม้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ยังคงแอบมีการปฏิบัติกันอยู่ในพื้นที่มณฑลส่านซีและมณฑลใกล้เคียง โดยชาวบ้านมีความเชื่อว่า หากผู้ชายในบ้านตายลงโดยยังไม่ได้แต่งงานวิญญาณจะไม่มีความสุข จะยังคำสาปความอับโชคมาสู่ครอบครัว จึงแก้เคล็ดโดยจัดหาศพผู้หญิงมาจัดงานแต่งด้วย โดยมักขุดร่างหญิงที่ถูกฝังไปแล้วขึ้นมาประกอบพิธี แต่สำหรับศพที่สดใหม่ที่หาได้จากตลาดมืด จะสามารถขายได้สูงสุดถึงศพละ 100,000 หยวน (ประมาณ 500,000 บาท) เลยทีเดียว 

              ด้วยความเชื่อดังกล่าวที่ยังคงแอบมีการปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เกิดธุรกิจมืดขึ้นมาลับ ๆ คือ การแอบขุดศพจากหลุมไปขาย ตลอดจนกรณีฆาตกรรมดังเช่นกรณีนี้ 




http://hilight.kapook.com/view/141564

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท

นางฟ้ามาโปรด คุณลุงตกงาน เดินตากแดด อยากกลับบ้าน แต่มีเงินติดตัวแค่ 20 บาท      เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่มีผู้คนร่วมแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อสาวคนหนึ่งกำลังจะไปทานข้าว แต่ระหว่างทางเธอได้เจอกับคุณคนหนึ่ง เดินแบกกระเป๋าตากแดดอยู่ จึงได้จอดรถและช่วยเหลือโดยเธอได้เล่าว่า “ขับรถออกมากินข้าว ขากลับเจอคุณลุงเดินตากแดดร้อนๆ อยู่ถนนตรงบางพระ เลยจอดถามว่า คุณลุงจะไปไหนค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า คุณลุงเป็นคนอุบล มาหางานทำที่ชลบุรี แต่ไม่มีงาน เลยอยากจะกลับบ้านที่อุบล แต่มีเงินติดตัวอยู่แค่20 บาท เลยลองเดินหางานทำหวังได้ค่ารถกลับบ้าน อ้อมเลยอาสาไปส่งคุณลุงที่คิวรถตู้ตรงหน้าโรบินสัน ศรีราชา แล้วมอบเงินให้ลุงเป็นค่ารถกลับ 1,000 บาท #หวังว่าคงจะช่วยคุณลุงได้บ้างนะคะ (คุณลุงหูไม่ดีค่ะพูดไม่ค่อยได้ยิน ต้องพูดดังๆถึงจะพอได้ยินบ้างแต่ไม่ทุกคำ)” ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวออกไป ก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเป็นอย่างมาก เธอก็บอกว่าไม่เป็นไรและช่วยเหลือลุง ขอปรบมือรัวๆให้เลยจริงๆสำหรับสาวสวยใจดีคนนี้ ภาพจาก อรย...

แม่ใจสลาย ลูกไลฟ์สดผูกคอต่อหน้า ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเคอร์ฟิว

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. รับแจ้งจากชาวบ้าน บ้านสี่เหลี่ยม ต.สี่เหลี่ยม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ว่าเกิดเหตุสลดชายหนุ่มในหมู่บ้าน ซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ จ.ปทุมธานี ได้ถ่ายทอดสดหรือไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก ขณะกำลังจะผูกคอตัวเองภายในห้องพัก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ซึ่งญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่เห็นไลฟ์ ต่างพยายามโทรและส่งข้อความเข้าไปปลอบใจ แต่ก็ไม่เป็นผล ชายหนุ่มคนดังกล่าวตัดสินใจใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตต่อหน้าญาติและเพื่อนๆ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ เพื่อรอรับร่างนายเอกพงษ์ หรือเอก อายุ 32 ปี ที่ไลฟ์ผูกคอเสียชีวิต กลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะนางเอียด รักษา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่ ที่ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเห็นลูกก่อเหตุต่อหน้า แต่ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ไกล ทั้งนี้ทราบว่าเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่ จ.ปทุมธานี ที่เห็นไลฟ์ก็พยายามโทรไปปลอบใจ แต่ไม่กล้าออกไปช่วยเพราะกลัวเลยเวลาเคอร์ฟิว เนื่องจากตอนเกิดเหตุก็ประมาณ 3 ทุ่มเศษแล้ว นางเอียด ก...

เริ่มปุ๊บ ล่มปั๊บ! ‘เราไม่ทิ้งกัน ลงทะเบียนรับ 5,000

เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น รัฐบาลระบุว่า ระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น ผ่านไปไม่ถึงนาที ระบบก็ล่มแล้ว คาดว่าเพราะมีประชาชนแห่ลงทะเบียนกันเป็นจำนวนมาก  สำหรับมาตรการรับเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะให้สิทธิ์เฉพาะคนที่มีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุไว้เท่านั้น คือผู้ลงทะเบียนต้องมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เป็นผู้ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม เป็นแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ให้เตรียมหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลประกอบอาชีพ ข้อมูลนายจ้าง